โบรกฯ แนะซื้อ MAJOR ชูหุ้น “แลกการ์ด” จับตาไตรมาส 2 แกร่ง รับหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉายเพียบ
โบรกฯ แนะซื้อ MAJOR ชูหุ้น "แลกการ์ด" จับตาไตรมาส 2 แกร่ง รับหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉายเพียบ
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้นบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ประเมินราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 24.50 บาท/หุ้น มีการคาดแนวโน้มกำไรจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้น สอดคล้องกับโอกาสในการเปิดประเทศ และมี Pent-Up demand ผสานกับหนังที่จะเข้าฉายน่าสนใจมาก ขึ้น เช่น Fast 9, Black Widow, Mortal Combat และเรื่อง Godzilla vs. Kong ที่พึ่งเข้าฉายได้รับผลตอบรับที่ดี
ส่วน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น MAJOR ประเมินราคาเป้าหมาย 24 บาท/หุ้น โดยมีมุมมองเชิงบวก เนื่องจากคาดว่าจะเป็นหนึ่งในหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ผ่อนคลาย ส่งผลให้มีผู้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น สอดคล้องกับมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เตรียมเข้าคิวฉายตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.เป็นต้นไป
โดยกระแสภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่จาก Hollywood เรื่อง Godzilla vs Kong เข้าฉายวันแรกทำรายได้ 19.5 ล้านบาทเมื่อวันที่ 25 มี.ค.สูงกว่ารายได้ Box office สัปดาห์ก่อนหน้าทั้งสัปดาห์จากภาพยนตร์ทุกเรื่องทำรายได้ Box office ไปแค่เพียง 11 ล้านบาทเท่านั้น ผลักดันรายได้ Box office ภายในเดือน มี.ค.64 (1-25 มี.ค.) อยู่ที่ 64 ล้านบาทสูงขึ้น 1.5 เท่าตัวจากเดือน ก.พ.64 และ 1 เท่าตัวจากเดือน มี.ค.63
สำหรับแนวโน้มภาพรวมไตรมาส 2/64 มีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เริ่มกลับมาเข้าฉายอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ Godzilla vs Kong เริ่มวันที่ 25 มี.ค. / Mortal Combat เริ่มวันที่ 8 เม.ย. / Soebok เริ่มวันที่ 15 เม.ย. / Fast 9 เริ่มวันที่ 24 มิ.ย. / Top Gun เริ่มวันที่ 1 ก.ค. / Black widow เริ่มวันที่ 9 ก.ค. / Jungle Cruise เริ่มวันที่ 28 ก.ค. / Luca เริ่มวันที่ 12 ส.ค. / Shang-chi เริ่มวันที่ 2 ก.ย. เป็นต้น
ดังนั้นฝ่ายวิจัยฯได้เบื้องต้นผลประกอบการไตรมาส 2/64 คาดจะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 114 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส2/63 ขาดทุน 475 ล้านบาท ส่งผลให้ตลอดทั้งปี 64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 522 ล้านบาท พลิกจากที่เคยขาดทุนสุทธิ 528 ล้านบาทในปี 63
เช่นเดียวกัน บล.ยูโอบีเคย์เฮียน ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น MAJOR ประเมินราคาเป้าหมาย 24 บาท/หุ้น มองแนวโน้มผลประกอบการของ MAJOR จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ไตรมาส 2/64 เป็นต้นไปเนื่องจากการระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผ่อนคลายลงและภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์หลายเรื่องเข้าฉาย เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯเชื่อว่าผลประกอบการปี 64 จะพลิกกลับมากำไรจากการขาดทุนสุทธิจำนวนมากในปี 63 ล่าสุดได้ปรับประมาณการกำไรปี 64 ขึ้น 29% เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส4/63 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้