NWR-ITD-UNIQ จับมือขึ้น! ขานรับแบ่งเค้กเซ็น 3 สัญญารถไฟไทย-จีน
3 หุ้นรับเหมาฯ NWR-ITD-UNIQ จับมือขึ้นยกแผง! ขานรับแบ่งเค้กเซ็น 3 สัญญารถไฟไทย-จีน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD วันนี้ (30 มี.ค.2564) ล่าสุด ณ 10.08 น. อยู่ที่ระดับ 1.71 บาทปรับตัวขึ้น 0.16 บาท หรือ 10.32% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 131.68 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ อยู่ที่ระดับ 5.90 บาท ปรับตัวขึ้น 0.30 บาท หรือ 5.36% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 17.81 ล้านบาท
อีกทั้ง บริษัทเนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR อยู่ที่ระดับ 0.85 บาท ปรับตัวขึ้น 0.11 บาท หรือ 14.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37.45 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นทั้ง 3 บริษัทฯ ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากวานนี้ (29 มี.ค. 2564) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ลงนามในสัญญากับผู้รับงานโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เพื่อพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค กรุงเทพมหานคร-หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) จำนวน 3 สัญญา วงเงินรวม 27,527 ล้านบาท แบ่งเป็น สัญญาที่ 4-3 งานโยธาสำหรับช่วงนวนคร-บ้านโพ ระยะทาง 23 กิโลเมตร (กม.) วงเงินก่อสร้าง 11,525 ล้านบาท โดยมีกิจการร่วมค้า CAN เป็นผู้รับงาน (บริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ CSCEC / บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด และ NWR)
อีกทั้งสัญญาที่ 4-4 งานโยธาสำหรับศูนย์ซ่อมบำรุงเชียงรากน้อย วงเงินก่อสร้าง 6,573 ล้านบาท โดยมี ITD เป็นผู้รับงาน และสัญญาที่ 4-6 งานโยธาสำหรับช่วงพระแก้ว-สระบุรี ระยะทาง 31.60 กม. วงเงินก่อสร้าง 9,428 ล้านบาท มี UNIQ เป็นผู้รับงาน
ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขั้นตอนจากนี้ ร.ฟ.ท.จะดำเนินการออกหนังสือให้เริ่มงาน (NTP) โดยสัญญาที่ 4-3 และ 4-6 คาดว่าจะออก NTP ได้ในอีก 2 เดือนจากนี้ ส่วนสัญญาที่ 4-4 นั้นยังอยู่ระหว่างรอประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน (พ.ร.ฎ.เวนคืนฯ) โดยแต่ละสัญญามีระยะเวลาก่อสร้าง 1,080 วัน
โดยโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 มีทั้งหมด 14 สัญญา โดยขณะนี้ลงนามแล้ว 10 สัญญา เหลืออีก 4 สัญญาที่อยู่ระหว่างรอเปิดประกวดราคา หรือเปิดประกวดราคาแล้วแต่ยังไม่สามารถลงนามได้ คือ สัญญาที่ 4-1 งานโยธาช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กม. ยังไม่ประกวดราคา โดยรอสรุปโครงการร่วมกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
สัญญาที่ 4-2 ช่วงดอนเมือง-นวนคร ระยะทาง 21.8 กม. วงเงิน 8,626 ล้านบาท ซึ่งกิจการร่วมค้า SPTK (บริษัท ซิโนไฮโดร จำกัด / บริษัท สหการวิศวกร จำกัด และบริษัท ทิพากร จำกัด) เป็นผู้ชนะการประกวดราคา แต่ไม่ยอมยืนยันราคา ขณะนี้ ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างพิจารณาระเบียบกฎหมายว่าควรจะเปิดประกวดราคาใหม่ หรือเลื่อนผู้เสนอราคาลำดับที่ 2 คือ UNIQ ขึ้นมาเจรจาต่อรอง โดย UNIQ เสนอราคาสูงกว่า SPTK 2,000 ล้านบาท
สัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม. วงเงิน 9,913 ล้านบาท มี ITD เป็นผู้รับงาน อยู่ระหว่างการปรับแบบให้เข้ากับรายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ก่อนลงนามในสัญญา และสัญญาที่ 3-1 ช่วงแก่งคอย-กลางดง และปางอโศก-บันไดม้า วงเงิน 11,386 ล้านบาท ซึ่ง ITD-CREC No.10JV (ITD / China railway Engineering corporation : CREC) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุด 9,349 ล้านบาท แต่บริษัท นภาก่อสร้าง จำกัด ที่ร่วมกับพันธมิตรจากประเทศมาเลเซีย ได้ยื่นอุทธรณ์ผลประมูล เนื่องจากคณะกรรมการคัดเลือกได้ตัดสิทธิ์บริษัท นภาก่อสร้าง เพราะไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ กรมบัญชีกลาง พิจารณาแล้วว่าคำอุทธรณ์ฟังขึ้น ขณะที่ล่าสุด CREC ได้ทำการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง จึงต้องรอการพิจารณาของศาลปกครองก่อน
โดย ทั้ง 4 สัญญาที่เหลือ ทางร.ฟ.ท.จะต้องเร่งเคลียร์ปัญหา-อุปสรรคให้แล้วเสร็จเพื่อลงนามในสัญญาให้ครบทั้งหมดภายในปีนี้ โดยโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ระยะทาง 252.35 กม. วงเงินรวม 179,412 ล้านบาท มีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ช่วงปลายปี 2569-ต้นปี 2570 ส่วนเฟสที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กม. วงเงินลงทุนประมาณ 211,757 ล้านบาท ล่าสุดยังอยู่ระหว่างการสำรวจออกแบบ จะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2564 นี้