TRUBB พุ่ง 6% นิวไฮรอบ 7 ปี รับราคายางพุ่ง จับตาปี 64 กำไรโตแกร่ง รุกผลิตถุงมือยาง

TRUBB พุ่ง 6% นิวไฮรอบ 7 ปี รับราคายางพุ่ง จับตาปี 64 กำไรโตแกร่ง รุกผลิตถุงมือยาง ล่าสุดอยู่ที่ 2.78 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 6.11% มูลค่าซื้อขาย 127.87 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB ล่าสุด ณ เวลา 10.05 น. อยู่ที่ 2.78 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 6.11% สูงสุดที่ 2.80 บาท ต่ำสุดที่ 2.68 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 127.87 ล้านบาท

โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.84 บาท เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2556 โดยคาดนักลงทุนเก็งกำไร เนื่องจากผลประกอบการปี 2564 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากราคายางพาราปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความต้องการยังคงเพิ่มสูงขึ้น หลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดในไทยอีกระลอก

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล ประธานกรรมการ TRUBB เปิดเผยกับว่า บริษัทคาดปี 64 กำไรสุทธิดีกว่าปีก่อน ตามรายได้ที่น่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% เนื่องจากกลุ่มธุรกิจน้ำยางข้นและน้ำยางแปรรูปที่ยังเติบโตต่อเนื่อง และยังสร้างอัตรากำไร (มาร์จิ้น) ที่ดีกว่าปีก่อน รับอานิสงส์สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้มีความต้องการถุงมือยางค่อนข้างมาก จึงส่งผลดีต่อตลาดน้ำยางข้นเติบโตมากกว่าปกติ บริษัทจึงสามารถเรียกมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นได้

ขณะที่สถานการณ์ราคายางในปีนี้ถือว่าดีกว่าปีก่อน โดยราคายางปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 50 บาท/กิโลกรัม  จึงทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการโดยรวมของบริษัทในปีนี้จะไม่มีผลขาดทุนจากสต็อก

รวมถึงจากการที่ TRUBB ได้จัดตั้งบริษัท ไทยรับเบอร์โกลฟส์ จำกัด ผลิตถุงมือยาง ทั้งประเภทที่ใช้ในทางการแพทย์และเอนกประสงค์ กำลังการผลิตรวม 60 ล้านชิ้น/เดือน เพื่อขายในประเทศและส่งออกต่างประเทศ โดยจะใช้โรงงานที่มีอยู่ 2 แห่งใน จ.ชลบุรี และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่ปัจจุบันปล่อยเช่าอยู่และจะหมดสัญญาเช่าเร็วๆ นี้มาดำเนินการต่อ คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ภายในไตรมาส 1/64 และรับรู้รายได้เข้ามาทันที

ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรหลายรายที่สนใจเข้าร่วมลงทุน (JV) ในธุรกิจถุงมือยางดังกล่าว คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจในด้านการขยายตลาด เนื่องจากบริษัทมีแผนส่งออกถุงมือยางไปในตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ทั้งในแถบทวีปยุโรปและสหรัฐ เป็นต้น

นอกจากนั้น แผนงานในปีนี้ บริษัทย่อย คือ บมจ.เวิลด์เฟล็กซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตเส้นด้ายยางยืดจากน้ำยางธรรมชาติ อยู่ระหว่างเตรียมยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) คาดว่าจะดำเนินการได้ในไตรมาส 2/64 หรือ ไตรมาส 3/64 คาดหวังว่าจะได้รับการอนุมัติและเข้าจดทะเบียนใน mai ภายในปี 64 โดยมี บล.เคทีบีเอสที (KTBST) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

“ในปี 64 เราคาดว่ารายได้ต้องโตอย่างน้อย 10% โดยได้แรงหนุนจากธุรกิจถุงมือยาง และบริษัทลูกที่จะเข้าตลาดในปีนี้ เพื่อระดมทุนขยายกำลังการผลิต” นายวรเทพ กล่าว

Back to top button