CPF เดินหน้าโครงการ “ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน เฟส 2” เน้นอนุรักษ์-รักษาระบบนิเวศ

CPF เดินหน้าโครงการ "ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน เฟส 2" เน้นอนุรักษ์-รักษาระบบนิเวศ


บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เดินหน้าโครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน ระยะที่สอง เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู และคืนสมดุลระบบนิเวศป่าชายเลน ร่วมสร้างอาหารมั่นคง

โดยบริษัทได้ดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน ประกอบด้วย อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดิน น้ำ ป่าคงอยู่  โดยในด้านของดินน้ำป่าคงอยู่ บริษัทฯ ทำกิจกรรมอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าบกและป่าชายเลนอย่างต่อเนื่อง  ในระหว่างปี  2557-2561  ดำเนินโครงการ “ซีพีเอฟ  ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน” ช่วยฟื้นฟูป่าชายเลนที่ ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร ที่มีปัญหาพื้นที่ชายฝั่งถูกกัดเซาะให้กลับสู่ป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์รวม 104  ไร่

สำหรับความสำเร็จจากการดำเนินโครงการในระยะที่หนึ่ง นอกจากฟื้นฟูป่ากลับสู่ความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอนุบาลให้กับสัตว์น้ำวัยอ่อน  เป็นแหล่งอาหารของชุมชน  ยังเกิดการทับของตะกอนเลนเป็นแนวเพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ได้อีก   และปัจจุบันเข้าสู่ระยะที่สอง (ปี 2562-2566 )ของโครงการ มีเป้าหมายอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน ในพื้นที่  จ.สมุทรสาคร เพิ่มอีก 266 ไร่

ด้าน นายวัฒนา พรประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า พื้นที่ป่าชายเลนจังหวัดสมุทรสาคร เป็นพื้นที่อ่าวตัว ก. ที่มีปัญหาพื้นที่ชายฝั่งถูกกัดเซาะ แต่จากความร่วมมือของภาคเอกชนและชุมชนในพื้นที่  ดำเนินโครงการซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ทำให้ผืนป่าชายเลนบริเวณนี้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง สามารถแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง จากการปลูกพันธุ์ไม้ป่าชายเลน คือ ต้นแสม ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เติบโตได้ดีในพื้นที่ ปริมาณต้นไม้ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการทับถมของตะกอนเลนเป็นแนวเพิ่มขึ้นสามารถปลูกต้นไม้ได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลโดยตรงของการอนุรักษ์และฟื้นฟูที่ทำให้พื้นที่ป่าเพิ่มขึ้น และยังเป็นแหล่งอนุบาลให้กับสัตว์น้ำวัยอ่อน เป็นแหล่งอาหารของชุมชนในพื้นที่  ช่วยส่งเสริมรายได้และการหมุนเวียนของเศรษฐกิจในชุมชนให้ดีขึ้น เช่น อาชีพประมง

“ความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ  เอกชน และชุมชนที่ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมดูแลป่า  นำมาสู่ผลสำเร็จของการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศของป่าชายเลน  สามารถเป็นต้นแบบของการฟื้นฟูป่าชายเลนให้พื้นที่อื่น ๆ ซึ่งในโอกาสวันป่าชุมชนชายเลนไทย 12 เมษายน ของทุกปี  จึงขอเชิญชวนให้คนไทยทุกคน ร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ของชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน” นายวัฒนา กล่าว 

ด้าน นายปรีชา มีนิล  รองกรรมการผู้จัดการ ซีพีเอฟ ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ป่าชายเลน จังหวัดสมุทรสาคร  กล่าวว่า  ซีพีเอฟดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และตลอดกระบวนการผลิต บริษัทฯ ใส่ใจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม  ซึ่งภายใต้กลยุทธ์สู่ความยั่งยืนด้านดินน้ำป่าคงอยู่  มีเป้าหมายร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ  คืนสมดุลระบบนิเวศ  เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ  ตลอดจนสร้างกิจกรรมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการผลิตอาหารปลอดภัย  เพื่อสร้างแหล่งอาหารที่มั่นคง ชุมชนพึ่งพาตนเองและอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืน

โดยในปี 2562-2566 เข้าสู่ระยะที่สองของโครงการ “ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน”  บริษัทฯ ร่วมมือกับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช  เดินหน้าอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเพิ่มอีก  266  ไร่ หลังจากผลสำเร็จของโครงการระยะที่หนึ่ง (ปี 2557-2561) ที่ร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)ช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนที่ ต.บางหญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร รวม 104 ไร่ และจัดตั้งสถานีส่งเสริมอาชีพชุมชนอนุรักษ์ป่าชายเลน  ต.บางหญ้าแพรก  ช่วยสร้างอาชีพและรายได้เสริมให้แก่ชุมชน

 

 

ซีพีเอฟ ดำเนินโครงการ “ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน ” มาตั้งแต่ปี 2557  ช่วยอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน พื้นที่ยุทธศาสตร์  5 จังหวัด รวม 2,388 ไร่  ประกอบด้วย ระยอง สมุทรสาคร ชุมพร สงขลา และพังงา และยังคงเดินหน้าร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าบกและป่าชายเลนอย่างต่อเนื่อง   โดยเมื่อปลายปี  2563  ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับกรมป่าไม้  กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ดำเนินโครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ปลูกป่าบกและป่าชายเลน ระยะที่สอง ในโครงการ ซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง โครงการ ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน  และโครงการซีพีเอฟรักษ์นิเวศ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในสถานประกอบการ มุ่งมั่นมีส่วนร่วมปกป้องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อความมั่นคงทางอาหารและสร้างสมดุลธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซี่งสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) ในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ  การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน  ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ยั่งยืนของระบบนิเวศบนบก เป็นต้น

Back to top button