SABINA คาดยอดขาย Q2 ฟื้น รับตลาดส่งออก-เน้นกลยุทธ์ขายหลายช่องทาง
SABINA คาดยอดขาย Q2 ฟื้น รับตลาดส่งออก-เน้นกลยุทธ์ขายหลายช่องทาง
นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกที่ 3 ที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิด ผ่านพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าในช่วงครึ่งแรกของเดือนเมษายน รวมถึงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้พบว่า แม้ยอดขายจะได้รับผลกระทบ แต่เมื่อเทียบกับการแพร่ระบาดในระลอกแรกเมื่อปี 2563 และการระบาดในระลอกที่สองในช่วงปลายปี 2563 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2564 ก็ถือว่า ผลกระทบในระลอกที่ 3 เกิดขึ้นน้อยกว่า 2 ครั้งก่อนหน้าอย่างชัดเจน
“แม้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้จะกระจายเป็นวงกว้าง แต่ก็ไม่เหมือนกับ 2 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งตอนนั้นไม่มีวัคซีนเป็นความหวัง ขณะที่ในรอบนี้ เราเชื่อว่า การกระจายวัคซีนต้านโควิดจะมีความพร้อมในเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ซึ่งจะช่วยสกัดการแพร่กระจายของโรคได้ ความหวังเรื่องวัคซีนทำให้ความมั่นใจของผู้บริโภคไม่ได้ลดลงมากเหมือนกับ 2 ครั้งแรก
นอกจากนี้ ในรอบนี้รัฐบาลไม่ได้ประกาศล็อคดาวน์ และ SABINA ก็ยังปรับกลยุทธ์ด้านการขาย โดยเน้นการเข้าหาและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในหลายช่องทาง เราใช้วิธีหาปลาในแหล่งที่มีปลา หมายถึงเจาะพื้นที่ที่มีลูกค้าแน่นอน ซึ่งการโฟกัสพื้นที่ขายต้องแม่นยำเพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด โดยช่วงที่ผ่านมา เราตุนยอดขายจากอีเว้นท์ใหญ่ของแพลตฟอร์มช้อปปิ้งชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นการฉลองครบรอบ 9 ปีเบิร์ธเดย์ลาซาด้า และแคมเปญ 4.4 ของช้อปปี้ ซึ่ง SABINA เป็นสินค้าที่มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มแฟชั่น ทำให้เรามั่นใจว่า ยอดขายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้จะยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2564 (QoQ) และเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY)” นายบุญชัยกล่าว
สำหรับปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตในไตรมาสที่ 2 ยังมาจากการส่งออก (Export) สินค้าแบรนด์ SABINA ไปยังประเทศเวียดนาม ซึ่งมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี ทำให้สินค้า SABINA ในตลาดเวียดนามเติบโตได้อย่างน่าพอใจ เช่นเดียวกับการรับจ้างผลิต (OEM) ซึ่งฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในสหราชอาณาจักร ขณะนี้เริ่มส่งคำสั่งผลิตล่วงหน้ามาแล้วจนเดือนสิงหาคม จึงเท่ากับว่าช่องทางขายทั้ง 4 ช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก (Retail) ผ่านเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าและซาบีน่า ช็อป ช่องทางออนไลน์ (NSR : Non Store Retailing) ส่งออก (Export) ภายใต้แบรนด์ SABINA และรับจ้างผลิต (OEM) ส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน