เปิดโผ 50 อันดับหุ้น NVDR ฝรั่งเทขาย! BDMS อันดับ 1 ขายสุทธิ 3.42 พันล้านบาท

เปิดโผ 50 อันดับหุ้น ถูกฝรั่งเทขายนับตั้งแต่ต้นปี! BDMS อันดับ 1 ขายสุทธิ 3.42 พันล้านบาท


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจมูลค่าการซื้อขายสะสมของนักลงทุนต่างประเทศตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงปัจจุบัน โดยพบว่ามีการขายสุทธิ ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปิดทำการซื้อขายวานนี้ (26 เม.ย.2564) ปิดตลาดที่ระดับ 1,559.53 จุด ปรับตัวขึ้น 5.94 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.37 หมื่นล้านบาท

ขณะที่จากการสำรวจข้อมูลการซื้อขายของบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลท. โดยข้อมูลการซื้อขายรายกลุ่มแสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการขายสุทธิตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. จนถึง 24 เม.ย. 2564 โดยพบว่ามีการขายสุทธิ 3.45 หมื่นล้านบาท

ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงได้สำรวจและรวบรวมมูลค่าสุทธิของใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย NVDR ที่ถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติของ (ข้อมูลตั้งแต่ 1 ม.ค.จนถึง 23 เม.ย.2564) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สะท้อนการลงทุนของต่างชาติได้มากที่สุด

โดยคัดเลือกบจ.ที่มีมูลค่าการขายสุทธิสูงที่สุด 50 อันดับแรก เรียงลำดับจากบจ.ที่มีอัตราส่วนการขายสุทธิของ NVDR สูงสุด ดังนี้

(ตารางแสดงมูลค่าสุทธิ NVDR ข้อมูลตั้งแต่ 1 ม.ค.จนถึง 23 เม.ย.2564)

ทั้งนี้ พบว่า บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS เป็นหุ้นที่มีมูลค่าขายสุทธิ NVDR สูงสุด เป็นอันดับแรกด้วยมูลค่าสุทธิ 3.42 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามราคาหุ้น BDMS ปิดตลาด ณ วันที่ 26 เม.ย.2564 ยังมีอัพไซด์ 11.21% จากราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ย (IAA Consensus) ที่ระดับ 24.80 บาท

ขณะที่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เป็นหุ้นที่มีมูลค่าขายสุทธิ NVDR สูงสุด เป็นอันดับที่ 2 ด้วยมูลค่าสุทธิ 3.19 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามราคาหุ้น GPSC ปิดตลาด ณ วันที่ 26 เม.ย.2564 ยังมีอัพไซด์ 12.98% จากราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ย (IAA Consensus) ที่ระดับ 80.50 บาท

และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เป็นหุ้นที่มีมูลค่าขายสุทธิ NVDR สูงสุด เป็นอันดับที่ 3 ด้วยมูลค่าสุทธิ 2.65 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามราคาหุ้น AOT ปิดตลาด ณ วันที่ 26 เม.ย.2564 ยังมีอัพไซด์ 1.19% จากราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ย (IAA Consensus) ที่ระดับ 64 บาท

ทั้งนี้ นักลงทุนควรนำอัตราส่วนทางการเงิน และปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ มาประกอบการพิจารณาสำหรับการเข้าลงทุนเพิ่มเติม

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button