ASW เทรดสนั่น! ลุ้นวิ่งเกิน 11 บ. โบรกชูดาวเด่น “อสังหาฯ” กำไรปี 64 “ออลไทม์ไฮ”
ASW ลงสนามเทรดวันนี้ ลุ้นวิ่งเกิน 11 บ. โบรกฯยกให้เป็นดาวเด่นหุ้น "อสังหาฯ" กำไรปี 64 แตะระดับ 1.1 พันล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 เม.ย.64) หลักทรัพย์ของ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW จะเข้าจดทะเบียน และทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก ด้วยราคา IPO ที่ 9.82 บาท/หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (par) ที่ 1.00 บาท/หุ้น โดยจำนวนหุ้นที่เสนอขาย เท่ากับ 206,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 27.07 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ รวมมูลค่าการเสนอขาย 2,022,920,000 บาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 9.82 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ที่ประมาณ 6.25 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิที่ 1.57 บาทต่อหุ้น ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ตามงบการเงินปี 2563 (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2563) ซึ่งเท่ากับ 873.90 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 555.00 ล้านหุ้น (Pre-IPO Dilution) และคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) เท่ากับ 8.54 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิที่ 1.15 บาทต่อหุ้น หากพิจารณากำไรสุทธิต่อหุ้นที่คำนวณจากจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 761.00 ล้านหุ้น (Post-IPO Dilution)
ด้านนายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW มั่นใจว่าในวันพรุ่งนี้(28 เมษายน 2564) หุ้น ASW จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก มั่นใจว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก เพราะบริษัทฯ มีความโดดเด่นในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทีมงานที่พร้อมจะทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงแข็งแกร่ง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต ณ สิ้นปีที่แล้ว มียอดขายรอโอนกว่า 7,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ ไปจนถึงปี 2566 และปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเปิดขาย 8 โครงการ มูลค่า 11,377 ล้านบาท และโครงการในอนาคตอีก 11 โครงการ มูลค่ารวม 21,202 ล้านบาท ซึ่งจะพัฒนาและขายใน 4-5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตได้ในระยะยาว
“การเข้าจดทะเบียนในSET จะช่วยให้บริษัทฯมีฐานทุนเพิ่มขึ้น สามารถขยายงานได้มากขึ้น และได้รับการยอมรับจากลูกค้า รวมทั้งต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ทำให้ความสามารถในการสร้างรายได้ และกำไรสูงขึ้น ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
นางยอดฤดี สันตติกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้าสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของ ASW เปิดเผยว่ามีความมั่นใจว่าเมื่อหุ้น ASW เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคัก หลังช่วงที่เปิดเสนอขายหุ้นนั้นมีกระแสความต้องการหุ้น ASW มากกว่าจำนวนที่จัดสรรหลายเท่าตัว
จากความต้องการที่ล้นหลามครั้งนี้ นอกเหนือจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของ ASW แล้ว อีกประเด็นสำคัญน่าจะเป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่ในระดับต่ำ และมาตรการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ฯ ของภาครัฐ ที่มีการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนจำนองสำหรับอสังหาริมทรัพย์ บ้าน -คอนโดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งตรงกับผลิตภัณฑ์และกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัท จึงน่าจะเป็นส่วนที่สนับสนุนให้ผลประกอบของแอสเซทไวส์เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
นางศิริพร เหล่ารัตนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้น IPO ของ ASW กล่าวว่า ASW จะเป็นหุ้นน้องใหม่ในกลุ่มอสังหาฯ ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนได้ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเป็นผู้พัฒนาโครงการที่มี มีความโดดเด่นในด้านทำเลที่ตั้ง มีแบรนด์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จึงทำให้มีความคล่องตัวในการทำงานสูงมาก รวมทั้งมีการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนได้ดี ขณะเดียวกันมีโอกาสเติบโตอย่างโดดเด่นจากความสามารถในการทำกำไรสูง เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน
นอกจากนี้ ภายหลังจากการระดมทุนในครั้งนี้ จะทำให้บริษัทมีศักยภาพในการแข่งขันสูงขึ้น มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับ ดังนั้นจึงทำให้มีโอกาสที่จะขยายงานหรือพัฒนาโครงการคุณภาพเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่มาตรการรัฐที่สนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนบริษัท ให้รายได้และกำไรในอนาคตเติบโตได้อย่างมั่นคง
ทั้งนี้ ASW เสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 206 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ มองว่า ASW เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่กำไรดี เพราะใส่ใจทุกรายละเอียด และประเมินราคาเหมาะสมเท่ากับ 11.60 บาท โดยอิงเป้าหมาย Forward PE 8 เท่า โดยเป็นระดับ Forward PE ที่ Discount จากค่าเฉลี่ยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ราว 25% (ฝ่ายวิจัยจัดทำบทวิเคราะห์อยู่รวม 7 บริษัท มี Forward PE เฉลี่ยที่ 10.8 เท่า)
โดยคาดว่ากำไรปีนี้ยังสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง แม่ว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโดยรวมยังซบเซา และคาดกำไรปี 2564 แตะระดับ 1.1 พันล้านบาท เป็นจุดสูงสุดใหม่ของบริษัท ต่อเนื่องจากปี 2563 ซึ่งทำกำไรไว้ราว 874 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี จากข้อมูลโครงการปัจจุบัน ประเมินแนวโน้มกำไรปี 2565 จะเติบโตเพิ่มขึ้นราว 6.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เชื่อว่ายังมีอัพไซด์หากบริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมภายหลังเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ และอัตรากำไรขั้นต้นทำได้ดีกว่าสมมติฐานแบบอนุรักษ์นิยม ที่ใช้ในการจัดทำประมาณการ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ประเมินว่า ASW จะเป็นดาวรุ่งกลุ่มอสังหาฯ โดยมีราคาเหมาะสมเท่ากับ 11.20 บาท อิง P/E 8 เท่า ซึ่งใช้ P/E สำหรับในการประเมินราคาหุ้น ASW โดยเลือกหุ้นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายบ้านและคอนโด และมี Market Cap มากกว่า 7 พันล้านบาท ใน SET มาเทียบเคียง โดยค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 8.0 เท่า เมื่อคำนวณกับประมาณการกำไรต่อหุ้นที่ 1.4 บาท ณ สิ้นปี 2564 จะได้มูลค่าพื้นฐานที่ 11.20 บาท และที่ราคานี้ P/BV (เท่า) จะอยู่ระดับ 1.6 เท่า ดิวิเดนท์ยีลด์ จะอยู่ที่ 5.6%