STARK ชนะประมูลงานเวียดนาม-กวาดออร์เดอร์เอเชียใต้ 3 พันลบ. หนุนรายได้โต 20%
STARK ชนะประมูลงานเวียดนาม มูลค่า 1.5 พันลบ.-กวาดออร์เดอร์เอเชียใต้ 4.5 พันลบ. หนุนรายได้ปีนี้โต 15-20%
นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า บริษัทชนะประมูลงานโครงการในประเทศเวียดนาม ได้แก่ งานสายส่งกำลังไฟฟ้า (Transmission line) ของการไฟฟ้าเวียดนาม (Vietnam Electricity หรือ EVN) และงานโรงไฟฟ้าในเวียดนามตอนกลางและตอนใต้ ในเมืองดานัง โฮจิมินห์ ล็องอาน และกว๋างนาม มูลค่ารวมประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500 ล้านบาท
อีกทั้งบริษัทยังได้รับคำสั่งซื้อสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ลจากกลุ่มประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียใต้ ประกอบด้วยงานจากโครการลงทุนรถไฟฟ้าใต้ดินในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย งานจากรัฐบาลบังกลาเทศ และงานจากรัฐบาลศรีลังกา มูลค่ารวมประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,000 ล้านบาท
“ด้วยประสบการณ์ในวงการอุตสาหกรรมสายไฟและสายเคเบิ้ล รวมไปถึงการมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า โดยเฉพาะนวัตกรรมการผลิตด้วยสุดยอดเทคโนโลยี ทำให้สินค้ามีคุณภาพ และความปลอดภัยสูง จนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับงานจากโครการขนาดใหญ่ในครั้งนี้ และคาดว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง” นายประกรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ปัจจุบัน บริษัทยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงานประเภท High Potential ในประเทศไทยเพิ่มเติม เช่น โครงสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานรถไฟฟ้าระบบรางเดี่ยว และโครงการนำสายเคเบิ้ลลงใต้ดินของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) รวมมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท หรือ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าจะทราบผลการประมูลบางส่วนในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้
รวมทั้งยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงาน High Potential ในประเทศเวียดนาม จากทั้งภาครัฐ (B2G) และผู้ประกอบการ (B2B) โดยส่วนใหญ่เป็นงานสายส่งกำลังไฟฟ้าจากเมืองฮานอย ดานัง บิ่ญเฟื้อก และโรงไฟฟ้าในดาลักและโฮจิมินห์ รวมมูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท หรือ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าจะทราบผลการประมูลบางส่วนภายในปีนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตามแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯ มองว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมสายไฟฟ้าและสายเคเบิลมีแนวโน้มการเติบโตได้อย่างโดดเด่นจากความต้องการใช้เพิ่มขึ้นในทั่วทุกมุมโลกอย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 64 บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ เติบโต 15-20% และมั่นใจว่าจะสามารถสร้างประวัติการณ์สูงสุดต่อเนื่องโดยจะมาจากรายได้หลักคือ ธุรกิจสายไฟฟ้าและสายเคเบิ้ล ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีไปพร้อมกับอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ และยังคงมุ่งเน้นการขายสินค้าในกลุ่มที่มีความสามารถในการทำกำไรได้สูง (High Margin) โดยเฉพาะกลุ่มสายไฟแรงดันระดับกลาง จนถึงระดับสูงพิเศษที่มีการเติบโตสูง เพื่อรองรับโครงการต่างๆ ของภาครัฐและเอกชน พร้อมกับการควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการบริหารจัดการร่วมกันของกลุ่มบริษัท จะช่วยให้เพิ่มความสามารถในการทำกำไรมากขึ้นอีกด้วย