“ฟินันเซีย” เปิดแนวโน้มผลงาน Q1 “หุ้นเรือ” ชู LEO – SONIC ท็อปฟอร์ม!

บทวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า แนวโน้มกำไรปกติในช่วงไตรมาส 1/64 ของกลุ่มเรือ 5 บริษัทที่ฝ่ายวิจัยศึกษา คาดมีกำไร 682.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.6% จากไตรมาสก่อน และพลิกจากขาดทุน 68 ล้านบาทในไตรมาส 1/63 หากไม่รวม TTA ที่ขาดทุน 459 ล้านบาทในไตรมาส 1/63 บริษัทอื่นส่วนใหญ่มีกำไรเติบโตสดใสเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยผลประกอบการที่สดใสในไตรมาสนี้มาจากค่าระวางเรือที่สูงต่อเนื่อง แม้จะไม่สามารถผลักต้นทุนค่าระวางที่สูงขึ้นให้กับลูกค้าได้ทั้งหมด แต่ปริมาณการส่งออก-นำเข้าที่ฟื้นตัวดีขึ้น ชดเชยอัตรากำไรขั้นต้นที่ชะลอจากไตรมาสก่อนได้

ทั้งนี้ บริษัทที่คาดว่ากำไรจะเติบโตได้ดีทั้งจากไตรมาสก่อน และปีก่อนคือ TTA, LEO, SONIC และ PRM มีเพียง VL ที่คาดว่ากำไรลดลงเพราะมีเรือเข้าอู่แห้ง 2 ลำ

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มเรือจึงยังน่าจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 2/64 และไตรมาส 3/64 ซึ่งเป็น High season ของการส่งออก แต่ราคาหุ้นหลายตัวปรับตัวขึ้นสะท้อนการเติบโตไปบ้างแล้ว

ดังนั้น ฝ่ายวิจัยแนะนำซื้อ LEO, SONIC แนะนำถือ VL แนะนำเก็งกำไรผลประกอบการ TTA และแนะนำขาย PRM

 

TTA : คาดกำไรปกติไตรมาส 1/64 สดใส เติบโต 27.0% จากไตรมาสก่อน และพลิกจากขาดทุนในไตรมาส 1/63 เป็น 203.6 ล้านบาท จากค่าระวางเรือเทกองในตลาดที่ปรับขึ้นแข็งแกร่ง +41.8% จากไตรมาสก่อน, +104.7% จากปีก่อน ซึ่ง TTA มักทำได้สูงกว่าตลาดเฉลี่ย ราว 17%

ประกอบกับจำนวนเรือที่เพิ่มขึ้น 1 ลำในช่วงต้นปี กำไรของธุรกิจขนส่งทางเรือที่โดดเด่นชดเชยผลขาดทุนของธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง (Mermaid) ได้หากกำไรไตรมาส 1/64 เป็นไปตามคาด ประมาณการทั้งปีอาจมี Upside ยังคงประมาณการไว้ก่อน และคงราคาเป้าหมาย 14.50 บาทไว้ก่อน แม้ราคาหุ้นจะสูงเกินเป้าหมายแต่แนะนำเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/64 ที่อาจดีกว่าคาด

SONIC: คาดกำไรไตรมาส 1/64 สดใสทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 32.8 ล้านบาท +15.8% จากไตรมาสก่อน, +146.3% จากปีก่อน แม้ว่าต้นทุน ค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์จะสูงขึ้นซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นชะลอ แต่รายได้จากการขนส่งทางเรือคาดว่าจะสูงขึ้น มากจากปริมาณการส่งออกนำเข้าที่อยู่ในระดับสูงตามการเร่งตัวของการค้าโลก ชดเชยต้นทุนค่าระวางที่เพิ่มขึ้นได้หมด แนวโน้มปริมาณการค้าจะยังสูงต่อไปถึงไตรมาส 3/64 ก่อนชะลอตามฤดูกาลในไตรมาสสุดท้าย ทั้งนี้ กำไรไตรมาส 1/64 มีแนวโน้มดีกว่าคาด ซึ่งจะเป็น Upside ต่อประมาณการและราคาเป้าหมายที่ปัจจุบันให้ไว้ 3.70 บาท ยังแนะนำซื้อ

LEO: กำไรไตรมาส 1/64 อาจทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 25 ล้านบาท จากค่าระวางยังสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีค่าระวางตู้คอนเทนเนอร์เซี่ยงไฮ้ SCFI เฉลี่ยไตรมาส 1/64 เพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาสก่อน, +198% จากปีก่อน แม้จะผลักให้กับลูกค้าได้ไม่หมด แต่ถูกชดเชยได้ด้วยปริมาณการขนส่งที่โตต่อเนื่องคาด +20-30% จากปีก่อน แนวโน้มกำไรไตรมาส 2-3/64 สดใสต่อเนื่องจากปริมาณการขนส่งที่ยังสดใส และปัจจุบันดัชนีค่าระวางยังปรับขึ้นต่อ

ส่วนธุรกิจเช่าพื้นที่เก็บของแห่งที่ 1 (พระราม 3 ถูกใช้เกือบเต็มแล้ว) และอยู่ระหว่างขยายแห่งที่ 2 จะเข้ามาช่วยเสริมรายได้และอัตรากำไรในช่วงครึ่งหลังของปี นอกจากนี้ยังมีการทำ JV ร่วมกับพันธมิตร Cardinal, UK มีเป้าหมายเพิ่มรายได้ปีนี้เป็น 4 พันตู้จากเดิม 2 พันตู้และมีแผน M&A ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณา 2-3 ดีล ยังแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 8 บาท

PRM: คาดกำไรปกติไตรมาส 1/64 ที่ 403.1 ล้านบาท +10.3% จากไตรมาสก่อน Q-Q และ +17.4% จากปีก่อน และน่าจะเป็นไตรมาสที่สูง ที่สุดของปี ช่วงที่เหลือของปีจะถูกกระทบจากกสนขายเรือ FSU 1 ลำหลังจากสัญญาเช่าของ TASCO หมดอายุในเดือน เม.ย. และไม่ต่อสัญญา เรือ FSU ที่เหลือ 6 ลำมีต้นทุนค่าน้ำมันสูงขึ้นกว่าปีก่อนขณะที่ค่าเช่าคงที่ เพราะปีก่อนปรับค่าเช่าไปแล้ว และการรวมกิจการของ TM (ซื้อจาก TOP) แล้วเสร็จในเดือน เม.ย. ทำให้รับรู้ผลขาดทุนเร็วขึ้น

ส่วนการรับเรือ VLCC 1 ลำขนาดใหญ่เพื่อให้บริการขนส่งน้ำมันแก่ TOP สัญญา 10 ปีแม้จะมีรายได้สูงแต่คาดว่าในช่วงแรกจะมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการจำนวนหนึ่ง คาดกำไรปี 2564 ลดลง 21.6% จากปีก่อน ราคาเป้าหมาย 8 บาท แนะนำ “ขาย”

VL: คาดกำไรปกติไตรมาส 1/64 ที่ 17.5 ล้านบาท -16.4% จากไตรมาสก่อน, -31.9% จากปีก่อน เพราะมีเรือ 2 ลำเข้าอู่แห้งตามรอบ ประกอบกับการระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปีทำให้การใช้น้ำมันในประเทศชะลอลงอีกครั้ง แต่กำไรจะโตเร่งตัวตั้งแต่ไตรมาส 1/64 จากการเริ่มให้บริการของเรือลลำใหม่ VL 23 ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2564 ที่ +20.3% จากปีก่อน เป็น 95.7 ล้านบาท (กำไรสุทธิ+13.4% จากปีก่อน) ประมาณการและราคาเป้าหมายมี upside หากบริษัทซื้อเรือเพิ่มในช่วงปลายปีจึงแนะนำ “ถือ” ไว้ก่อน