TISCO คาดรายได้ค่าธรรมเนียมปีนี้โต-สำรองฯลด แนวโน้ม NPL พุ่งแตะ 3.5%
TISCO มองแนวโน้ม NPL พุ่งแตะ 3.5% จากเดิม 2.5% รับโควิดระลอกใหม่ ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมแนวโน้มโตแกร่ง รับลูกค้าซื้อกองทุน-ประกัน-ลงทุนหุ้น
นายชาตรี จันทรงาม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายควบคุมการเงิน และ บริหารความเสี่ยง บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ในประเทศไทยที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความเสี่ยงมาอย่างต่อเนื่อง และส่งผลให้แนวโน้มสัดส่วนที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีแนวโน้มที่สูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาตรการชำระหนี้ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ราว 2% ซึ่งธนาคารคาดว่าอาจจะมีลูกค้าบางส่วนที่พักชำระหนี้ไม่สามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติสัดส่วนราว 1% ทำให้แนวโน้มของ NPL ในปี 64 มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.5% จากไตรมาส 1/64 ที่ 2.5%
ทั้งนี้ แม้ว่าแนวโน้มของ NPL จะยังมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้น แต่ในแง่ของการตั้งสำรองฯนั้นธนาคารมีการตั้งสำรองฯที่เพียงพอ และสามารถรองรับความสี่ยงในระดับที่สูง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้ตั้งสำรองฯในระดับที่สูงมาต่อเนื่อง ทำให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) อยู่ในระดับสูง โดยในไตรมาส 1/64 ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 221.8% จากสิ้นปี 63 ที่ 210.5% ทำให้ธนาคารยังมั่นใจว่ายังสามารถบริหารจัดการ NPL ที่จะเพิ่มขึ้นมาได้อย่างดี
ขณะเดียวกันทิศทางของเศรษฐกิจไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ธนาคารยังคงระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ และไม่เร่งการเติบโตสินเชื่อมาก เพราะธนาคารจำเป็นต้องมีการป้องกันความเสี่ยงในการให้สินเชื่อในภาวะที่ยังมีปัจจัยความไม่แน่นอนเข้ามากระทบ ทำให้ธนาคารต้องมีการประเมินความสี่ยงในการให้สินเชื่ออย่างเข้มงวด และสอดคล้องไปกับสถานการณ์ ซึ่งในภาพรวมสินเชื่อในปี 64 มองว่ายังไม่เห็นการกลับมาเติบโต ส่วนหนึ่งมาจากการที่ธนาคารระมัดระวัง และไม่เร่งการปล่อยสินเชื่อ และในแง่ของลูกค้าที่ความต้องการสินเชื่อในช่วงนี้ยังชะลอตัว จะเห็นได้จากสินเชื่อตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันของธนาคารปรับตัวลดลง 1.8%
อย่างไรก็ตามในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมยังมีทิศทางการเติบโตที่ดี จากการลงทุนของลูกค้าที่นำเงินมาซื้อกองทุน ประกัน และลงทุนในหุ้นมากขึ้นตั้งแต่ปี 63 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนายหน้าขายประกันผ่านสาขาของธนาคาร ธุรกิจบริหารจัดการกองทุน และธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ สามารถทำผลงานในการสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเข้ามาช่วยชดเชยรายได้จากดอกเบี้ยที่ลดลงไปได้บางส่วน โดยที่ธนาคารยังพยายามบริหารงานภายใต้ปัจจัยความไม่แน่นอนที่ยังมีอยู่จากโควิด-19 เพื่อสร้างผลการดำเนินที่น่าพอใจและสามารถให้ผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นที่ดีอย่างสม่ำเสมอ