SET ปิดลบ 7 จุด รับแรงกดดันปรับน้ำหนัก MSCI – เงินเฟ้อสหรัฐ
SET ปิดลบ 7 จุด รับแรงกดดันปรับน้ำหนัก MSCI – เงินเฟ้อสหรัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ระดับ 1,571.85 จุด ลดลง 7.08 จุด (-0.45%) มูลค่าการซื้อขาย 117,160.58 ล้านบาท
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตั้งแต่เปิดเทรดในช่วงเช้า จากแรงขายลดความเสี่ยงหลังกังวลอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯคาดเร่งตัวขึ้นมาที่ 3.6% จากเดือนก่อน 2.6% ซึ่งตลาดฯจับตาโมเมนตัมเศรษฐกิจสหรัฐฯว่าจะร้อนแรงไปหรือไม่ เพราะอาจมีผลต่อการทำ QE ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ ยังรับแรงกดดันจากการปรับน้ำหนักของ MSCI ด้วย โดย MSCI ได้ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยลง ทำให้เกิดความวิตกต่อกระแสเงินทุนไหลออก และยังถอดหุ้นขนาดใหญ่อย่าง KBANK-F ออกจากการคำนวณ MSCI Global Standard จึงกดดันให้มีแรงขายหุ้น KBANK ออกมามากในวันนี้
ขณะที่ในช่วงบ่ายนี้ตลาดฯ รีบาวด์กลับขึ้นมาได้ค่อนข้างแรงระหว่างเทรด หลังจากราคาหุ้น DELTA ปรับขึ้นมาอย่างร้อนแรง ซึ่งมีผลต่อดัชนีฯค่อนข้างมาก โดยทุก 10 บาทมีผลต่อดัชนีฯ 1 จุด ซึ่งราคาหุ้น DELTA ปรับขึ้นมากว่า 100 บาทระหว่างเทรดภาคบ่ายจึงดันดัชนีฯกลับขึ้นมาได้กว่า 10 จุดลดช่วงลบไปได้มากจนเกือบจะขึ้นมาเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ และยังทำให้มีแรงซื้อกลับหุ้นตัวอื่นด้วยระหว่างที่ดัชนีฯรีบาวด์ขึ้นมาสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้บ้าง ดังนั้น วันนี้ถือได้ว่าหุ้น DELTA ช่วยให้ Sentiment ตลาดฯดีขึ้น
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่างเคลื่อนไหวในแดนลบ และตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ ช่วงรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาคืนนี้ นอกจากนี้ ยังรอติดตามตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.ของยุโรป และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะออกมาในวันนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ค.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งออกด้านข้าง โดยมีแนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 9,545.47 ล้านบาท ปิดที่ 558.00 บาท เพิ่มขึ้น 94.00 บาท
TIDLOR มูลค่าการซื้อขาย 7,873.72 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท ลดลง 2.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 6,035.43 ล้านบาท ปิดที่ 119.50 บาท ลดลง 5.50 บาท
SAWAD มูลค่าการซื้อขาย 3,412.81 ล้านบาท ปิดที่ 73.00 บาท ลดลง 5.25 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 3,389.99 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท