ADD เปิดเทรดวันแรกพุ่ง 57% แตะ 17.30 บ. โบรกฯ ฟันกำไรปี 64-66 โตเฉลี่ย 19%
ADD เปิดเทรดวันแรกพุ่ง 57% แตะ 17.30 บ. จากราคา IPO ที่ 11 บาท โบรกฯ ฟันกำไรปี 64-66 โตเฉลี่ย 19% โดย ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ระดับ 17.50 บาท บวก 6.50 บาท หรือ 59.08% มูลค่าการซื้อขาย 502.84 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท แอดเทค ฮับ จำกัด (มหาชน) หรือ ADD เปิดเทรดวันแรกที่ระดับ 17.30 บาท เพิ่มขึ้น 57% จากราคา IPO ที่ 11 บาท โดย ณ เวลา 10.00 น. อยู่ที่ระดับ 17.50 บาท บวก 6.50 บาท หรือ 59.08% สูงสุดที่ระดับ 17.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 16.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 502.84 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป ได้ระบุในบทวิเคราะห์ (22 เม.ย.2564) ประเมินมูลค่าเหมาะสม ADD อยู่ที่ 13.90 บาทต่อหุ้น อิงกับเป้าหมาย PE ปี 2564 ที่ 22.40 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของบริษัทที่มีลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกับบริษัทฯ โดย “ฝ่ายวิจัย” ได้คาดการณ์กำไรสุทธิต่อหุ้น ปี 2564 ที่ระดับ 0.62 บาท
โดยบริษัทฯ ให้บริการระบบสนับสนุนการให้บริการดิจิทัลคอนเทนต์แก่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มาตั้งแต่ปี 2549 และมีผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีประสบการณ์ทำงานในธุรกิจโทรคมนาคมมานานกว่า 20 ปีอีกทั้งใช้กลยุทธ์รับรู้รายได้ในรูปแบบของส่วนแบ่งรายได้เพื่อความต่อเนื่องในการรับรู้รายได้และจูงใจลูกค้าในระยะยาว
ทั้งนี้ “ฝ่ายวิจัย” ได้คาดการณ์กำไรสุทธิในปี 2564-2566 เติบโตราว 19% ต่อปี ซึ่งผลักดันโดยสมมติฐาน ดังนี้ 1. รายได้เติบโตปีละ 15% จากการขยายรูปแบบการให้บริการสนับสนุนดิจิทัลคอนเทนต์และการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ อีกทั้งการเติบโตไปพร้อมกับการขยายฐานจำนวนผู้ใช้งานผ่านการขยายโครงข่ายบริการโทรศัพท์มือถือ และ 2. อัตรากำไรขั้นต้นที่ 34.10%, 35.20% และ 36.40% ในปี 2564 ถึง 2566 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับ 33.90% ในปี 2563 เป็นผลมาจากต้นทุนส่วนใหญ่ของบริษัทฯ เป็นต้นทุนที่เกี่ยวของกับพนักงานซึ่งค่อนข้างคงที่
นอกจากนี้ เงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายบุคลากรและขยายการทำการตลาดกับผู้สมัครรับบริการดิจิทัลคอนเทนต์ และเงินที่ได้จากการขายหุ้น IPO คราวนี้ บริษัทฯจะมีแผนนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการขยายบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและเพื่อรองรับการขยายจำนวนคู่ค้าทางการตลาดต่อไป
ส่วน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (22 เม.ย. 2564 ) ว่า ADD ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ทำหน้าที่ให้บริการสนับสนุนระบบดิจิทัลคอนเทนต์และให้บริการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแก่โอเปอเรเตอร์ มีโอกาสเติบโตจากอุตสาหกรรมโดยรวมยังเติบโตได้ดี
โดยในปี 2562 มูลค่าตลาดบริการดิจิทัล เท่ากับ 169.54 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 10.45% จากปี 2561 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ผู้ประกอบการได้หันมาประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์เคลื่อนที่และระบบอินเทอร์เน็ตมากขึ้นรวมไปถึงการวางระบบโครงข่ายโทรคมนาคม และให้บริการคำปรึกษาด้านระบบดิจิทัลในหลากหลายรูปแบบ
สำหรับผลประกอบการปี 2564 คาดว่าจะเติบโตโดดเด่น โดยมีสาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้ Digital Content Support ทั้งปี จากผู้ให้บริการเนื้อหา (Content Provider) รายใหญ่ที่เข้ามาในช่วงปลายปี 2563 นอกจากนี้ยังเติบโตตามจำนวนของผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดการให้บริการในด้านบริการที่ไม่เกี่ยวกับเสียง ( Non-voice) ขยายตัวโดยเฉลี่ย 5.56 % ต่อปี
ทั้งนี้ได้รับอานิสงส์จากการลงทุน 5G ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดบริการด้าน Digital ขยายตัว โดยในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นทั้งปี 2564 คาดว่าจะทำได้ที่ระดับ 33.50% ใกล้เคียงกับประมาณการปี 2563 ทั้งด้านค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ (SG&A/Sales) คาดอยู่ที่ระดับ 10% ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนที่ 11%
สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าจ้างนักพัฒนาระบบซึ่งเป็นลักษณะคงที่ จึงทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด โดยประมาณการรายได้ปี 2564 ราว 488.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.30% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันในปีก่อน พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2564 ราว 91.90 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 27% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา
ด้าน “ฝ่ายวิจัย” ประเมินมูลค่าด้วยวิธีราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio)โดยอิงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปี ของหุ้นกลุ่มที่มีลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกัน ได้แก่ บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY , บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ VCOM และ บริษัท โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ COMAN ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อัตราส่วนระหว่างหุ้น (PER) เฉลี่ยที่ 24.50 เท่า โดยประเมินกำไรสุทธิต่อหุ้นปี 2564 ที่ราว 0.57 บาทต่อหุ้น ได้ราคาเหมาะสมปี 2564 ที่ 14 บาทต่อหุ้น และคาดหวังอัตราเงินปันผลที่ 1.60% ต่อปี (เทียบกับราคาเหมาะสม)