SONIC ฉายแววผลงาน Q2 โตเด่น โบรกอัพกำไรปี 64-65 พ่วงเป้าใหม่ 4.90 บ.
SONIC ฉายแววผลงาน Q2 โตเด่น โบรกอัพกำไรปี 64-65 พ่วงเป้าใหม่ 4.90 บ.
บริษัท หลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินเกี่ยวกับหุ้นบริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC โดยมองว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมส 2/64 ยังโตต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ในช่วงปลายไตรมาส 1/64 แต่ประเมินว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ลดความต้องการส่งออกลง เนื่องจากในหลายประเทศ อาทิ จีน สหรัฐฯ รวมถึงบางประเทศในยุโรป เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ลง ซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ประกอบกับค่าระวางที่ยังอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งสอดคล้องกับ Shanghai Containerized Freight Index ที่ยังอยู่ในระดับสูง โดย ณ วันที่ 14 พ.ค. 64 อยู่ที่ระดับ 3,343.3 เพิ่มขึ้น 8% เทียบกับสัปดาห์ก่อน ประกอบกับธุรกิจ LogisLeasing ที่คาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่อง หลังไตรมาส 1/64 มีรายได้จากดอกเบี้ยราว 1 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในช่วง มิ.ย. 64 จะมีการส่งมอบรถล็อตแรกครบ 40 คัน มูลค่าราว 150 ล้านบาท และคาดว่าจะยังมีอุปสงค์ในการขอสินเชื่อดังกล่าวจากทางบริษัทเพิ่มขึ้น ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ทำให้ประเมินว่าผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/64 จะยังเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ปรับประมาณการรายได้ปี 64 ขึ้น 10% เป็น 2,142 ล้านบาท หลังคาดว่าความต้องการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ในปี 64 จะยังมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าค่าระวางจะยังสูงถึงสิ้นปี 64 รวมทั้งปรับ SG&A/Sales ในปี 64-65 ลง จากเดิม 13.4% และ 13.9% เป็น 11% และ 11.6% ตามลำดับ จากการประหยัดเชิงขนาด
อย่างไรก็ตาม ได้ปรับอัตรากำไรขั้นต้นลดลงจาก เดิมที่ 20.2% และ 21.0% เหลือ 18.2% และ 19.5% ตามลำดับ หลังบริษัทมีแผนที่จะไม่ผลักภาระต้นทุนทั้งหมดให้กับผู้ประกอบการ เนื่องจากต้องการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว ทั้งนี้ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิปี 64-65 ขึ้น 17% และ 9% เป็น 116 ล้านบาท 133 ล้านบาท ตามลำดับ
ทั้งนี้ บริษัทรายงานกำไรไตรมาส 1/64 ที่ 41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 206% จากปีก่อนและ 44% จากไตรมาสก่อน และนับเป็น All Time High ต่อเนื่องกัน 2 ไตรมาส โดยกำไรสุทธิที่ปรับตัวขึ้น หนุนจากรายได้รวมที่สูงขึ้น 94% จากปีก่อน เป็น 605 ล้านท โดยหลักเกิดจากรายได้ธุรกิจ Sea Freight ที่ปรับตัวสูงขึ้น 135% จากปีก่อนเป็น 465 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 77% ของรายได้รวมทั้งหมด
โดยการปรับตัวขึ้นของรายได้เกิดจาก ความต้องการใช้ตู้คอนเทนเนอร์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งค่าระวางที่ยังอยู่ในระดับที่สูงขึ้นต่อเนื่องจาก ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ประกอบกับ SG&A/Sales ที่ลดลงเหลือ 9.3% เทียบกับ 14.5% ในไตรมาส 1/63 จากการประหยัดเชิงขนาด
ขณะที่ส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยเหลือ 18.0% เทียบกับ 18.8% ในไตรมาส 1/63 จากค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทไม่ได้ Cost Plus ไปให้กับทางลูกค้าทั้งหมด เนื่องจากเป็นการช่วยลดภาระให้กับกลุ่มลูกค้า
ทั้งนี้ คงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 4.90 บาท โดยมีมุมมองเป็นบวกต่อธุรกิจของบริษัท ซึ่งคาดว่าผลกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 จะยังฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน หนุนจากทั้งธุรกิจหลักและธุรกิจใหม่ ทำให้เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 64-65 ขึ้น 17% และ 9% ตามลำดับ
รวมทั้งบริษัทมี Upsides จากแผนเข้า M&A ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนในช่วงไตรมาส 4/64 ทำให้คงแนะนำ “ซื้อ” โดยให้มูลค่าเหมาะสมใหม่ที่ 4.90 บาท อิงจาก PER 29.0 เท่า (ภายใต้สมมุติฐานว่าจะมีการแปลง Warrant ในปี 64 ประมาณ 50%)