KTC เข้าซื้อ “กรุงไทยลีสซิ่ง” เสริมทับพอร์ตสินเชื่อ ผลักดันกำไรดีต่อเนื่อง
KTC เข้าซื้อหุ้น “กรุงไทยลีสซิ่ง” จำนวน 75.05 ล้านหุ้น สัดส่วน 75.05% โบรกฯมองดีลนี้จะสามารถขยายปะเภทสินเชื่อเพิ่ม ชี้ช่วยหนุนกำไรสุทธิต่อ KTC เนื่องจากกรุงไทยลิสซิ่งยังมีความสามารถในการทำกำไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ บริษัทกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ได้มีการอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด (กรุงไทยลีสซิ่ง) จาก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ จำนวนทั้งสิ้น 75.05 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 75.05% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของกรุงไทยลีสซิ่ง มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ (พาร์) 10 บาท ในราคาหุ้นละ 7.92 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 594.40 ล้านบาท (ราคาซื้อขายหุ้นที่ตกลงกัน) ภายใต้เงื่อนไขว่าอาจมีการปรับราคาซื้อขายหุ้นต่ำลงหรือสูงขึ้นภายหลังการตรวจสอบกิจการตามเงื่อนไขการปรับราคาซื้อขายหุ้นที่ตกลงกันตามสัญญาซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้น แต่อย่างไรก็ตาม ราคาซื้อขายหุ้นสูงสุดจะไม่เกินหุ้นละ 13.15 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 986.91 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน KTC แจ้งอีกว่าบริษัทได้ดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อนเสร็จสมบูรณ์แล้ว และได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของกรุงไทยลีสซิ่งจำนวน 75.05 ล้านหุ้น จากธนาคารกรุงไทย โดยบริษัทฯได้ชำระราคาซื้อขายหุ้นในสัดส่วน 50% ของราคาซื้อขายหุ้นที่ตกลงกัน คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 297.20 ล้านบาทแล้ว เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2564 ซึ่งส่งผลให้ กรุงไทยลีสซิ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ทั้งนี้บริษัทฯจะชำระราคาซื้อขายหุ้นในส่วนที่เหลือซึ่งอาจมีการปรับราคาซื้อขายหุ้นต่ำลงหรือสูงขึ้นภายหลังการตรวจสอบกิจการตามเงื่อนไขการปรับราคาซื้อขายหุ้นที่ตกลงกันตามสัญญาซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้น ภายในเดือนพฤศจิกายน 2564
อย่างไรก็ตาม KTC เข้าซื้อหุ้นกรุงไทยลีสซิ่ง ซึ่งประกอบกิจการให้เช่าแบบสัญญาเช่าซื้อและเช่าการเงิน ทั้งนี้เชื่อว่าบริษัทสามารถขยายพอร์ตสินเชื่อ จากเดิมที่บริษัทฯ ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจร้านค้ารับบัตร การให้บริการรับชำระเงินแทน และธุรกิจสินเชื่อบุคคล (Personal loan)
พร้อมกับเชื่อว่าการเข้าซื้อหุ้นกรุงไทยลิสซิ่งของ KTC จะช่วยหนุนผลการดำเนินงานนับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไปเติบโตดีกว่าช่วงที่ผ่านมา เพราะทางผลการดำเนินงานของกรุงไทยลีสเติบโตสดใส เห็นได้จากช่วงที่ผ่านมาเช่นในปี 2562 มีรายได้รวม 842.19 ล้านบาท ต่อมาในปี 2563 มีรายได้รวม 398.89 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ สำหรับในปี 2562 มีกำไรสุทธิ 316.82 ล้านบาท ต่อมาในปี 2563 มีกำไรสุทธิ 176.42 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีการประเมินว่า KTC เข้าซื้อกรุงไทยลิสซิ่ง โดยจะส่งผลดีต่อ KTC เนื่องจากกรุงไทยลิสซิ่ง ยังมีความสามารถในการทำกำไรสุทธิ โดยการเข้าซื้อสินทรัพย์ดังกล่าวคิดเป็นเพียง 3.8% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของทางด้าน KTC ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาช่วยหนุนกำไรสุทธิปี 2564 ให้กับ KTC ได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากกำไรสุทธิของกรุงไทยลีสซิ่งในปี 2563 คิดเป็น 3.3% ของกำไรสุทธิ KTC
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) มองว่า ดีลที่ KTC เข้าซื้อกรุงไทยลีสซิ่งครั้งนี้จะทำให้เกิดการ Synergy ที่ดีกว่าเดิมสำหรับ KTC โดยจะสามารถขยายปะเภทสินเชื่อเพิ่มขึ้น ทั้งการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถใหม่ และสามารถนำมาต่อยอดสินเชื่อ “พี่เบิ้ม” ผ่านการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถแบบโอนเล่มทะเบียนได้