ลุ้น PSL ปีนี้ “เทิร์นอะราวด์” พลิกกำไรกว่าพันลบ. รับค่าระวางเรือ-ส่งออกพุ่ง
ลุ้นผลงาน PSL ปี 64 เทิร์นอะราวด์ พลิกกำไร 1.5 พันลบ. จากปีก่อนขาดทุน รับดัชนีค่าระวางเรือ-ส่งออกพุ่ง โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” เป้า 24 บ.
“ข่าวหุ้นธรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมบทวิเคราะห์เกี่ยวกับหุ้นบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL หลังนักวิเคราะห์มองแนวโน้มผลการดำเนินงานจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น อีกทั้งจากข้อมูลการส่งออกยังขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การส่งออกเดือน เม.ย.2564 มีมูลค่า 21,429.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 13.09% เมื่อเทียบเดือนเม.ย.2563 โดยมีปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของภาคการผลิต การระดมฉีดวัคซีนทั่วโลก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในภาคการผลิตและการบริโภค
ทั้งนี้บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ค.) แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PSL ที่ราคาเป้าหมาย 24 บาท อิง PER ปี 2564 ที่ 25 เท่า โดยชอบหุ้น PSL จาก 2 เหตุผลหลัก คือ 1) แนวโน้มผลการดำเนินงานที่พลิกกลับมามีกำไรและเติบโตดีมากในปี 2564
รวมทั้ง 2) สัดส่วนรายได้ 99% มาจากธุรกิจเดินเรือและสัดส่วนของกองเรือเพียง 17% ได้ทำสัญญา fixed contract ระยะเกิน 1 ปีซึ่งจะทำให้ PSL ได้ประโยชน์โดยตรงจากดัชนี Baltic Supramax Index (BSI) ที่ปรับขึ้นมาทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 10 ปี อย่างต่อเนื่อง หนุนโดย global demand ที่คาดโต 4% เมื่อเทียบจากปีก่อน สูงกว่า global supply ของกองเรือที่จะโตเพียง 1.5% เมื่อเทียบจากปีก่อนในปี 2564 (order book ต่ำสุดในทศวรรษ)
ทั้งนี้ประเมินกำไรสุทธิปี 2564 จะพลิกกลับมากำไรที่ 1.57 พันล้านบาท (จากขาดทุน 1.30 พันล้านบาทในปี 2563) จากรายได้เติบโต 67% เมื่อเทียบจากปีก่อน หนุนโดยค่าระวางที่ปรับตัวขึ้น 2) GPM คาดปรับตัวดีขึ้นเป็น 39.1% (ใกล้เคียงปี 2553 ที่ดัชนี BSI Index อยู่ที่ระดับ 2,000-3,000 จุด)
ส่วน บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (24 พ.ค.) ว่า PSL ค่าระวางเรือปรับขึ้นสูง แนวโน้มธุรกิจเรือเทกองยังมีความสดใสอยู่มาก เพราะอุปสงค์ต่อเรือเทกองมีสูง แต่อุปทานด้านกองเรือใหม่ๆ ที่เข้ามาจะยังมีน้อย ย่างเข้าสู่ไตรมาส 2/64 คาดว่าจะยิ่งสดใส เพราะอัตราค่าระวางเรือ (TC Rate) ยิ่งเพิ่มขึ้น โดยต้นไตรมาส 2/64 ถึงปัจจุบัน (QTD) ปรับเพิ่มขึ้นไปถึง US$21,000 เหรียญต่อลำ ซึ่งมากกว่าไตรมาส 1/64 ที่เฉลี่ย เป็น 12,157 เหรียญต่อลำ กำหนดราคาพื้นฐาน 18.50 บาท ด้วยวิธี P/BV ปี 2564-2565 เป็น 2 เท่า