3 หุ้นยางวิ่งคึก! รับราคาขายพุ่งต่อเนื่อง ลุ้นสิ้นปียืนเหนือ 70 บ. นิวไฮรอบ 8 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 10.46 น. ราคาหุ้น บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER อยู่ที่ 6.50 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 2.36% สูงสุดที่ 6.55 บาท ต่ำสุดที่ 6.45 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 243.08 ล้านบาท

ราคาหุ้นบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA อยู่ที่ 45.50 บาท บวก 1 บาท หรือ 2.25% สูงสุดที่ 45.75 บาท ต่ำสุดที่ 44.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 248.97 ล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB อยู่ที่ 3.20 บาท บวก 0.08 บาทหรือ 2.56% สูงสุดที่ 3.24 บาท ต่ำสุดที่ 3.18 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 31.13 ล้านบาท

ทั้งนี้ บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น NER ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท มูลค่าส่งออกยางพาราอ้างอิงจากกระทรวงพาณิชย์เดือน เม.ย.64 อยู่ที่ 14,510 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบจากปีก่อน ขณะที่มูลค่าส่งออกตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.64 อยู่ที่ 57,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบจากปีก่อน ในส่วนของราคายางแท่งเฉลี่ยอ้างอิงจากการยางแห่งประเทศไทยของปี 64 (ม.ค.-พ.ค.) อยู่ที่ 69.12 บาท/กก. ทำให้ทั้งปีลุ้นยืนเหนือ 70 บาท/กก. ซึ่งจะเป็นราคาเฉลี่ยทั้งปีที่สูงสุดในรอบ 8 ปี นับตั้งตีปี 56

โดยฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกต่อ NER และ STA จากตัวเลขมูลค่าส่งออกเดือน เม.ย.64 ที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบจากปีก่อน ตั้งแต่ ม.ค.64 ขณะที่ราคายางแท่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการทั้งในส่วนของล้อรถยนต์และถุงมือยางที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยราคายางแท่งเฉลี่ย ปี 64 (ม.ค.-พ.ค.) อยู่ที่ 69.12 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 46% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

อีกทั้งผู้บริหารทั้ง NER และ STA มองว่าราคายางปัจจุบันพึ่งเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ ซึ่งโดยปกติจะมี cycle เฉลี่ย 7 ปี โดยเราชอบ NER มากกว่าจากผลการดำเนินงานที่จะเติบโตได้โดดเด่นกว่า และมีแนวโน้มทำจุดสูดสูงใหม่อย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มปริมาณขายยางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

โดยคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของ NER ปี 2564 จะอยู่ที่ 1,770 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106% เมื่อเทียบจากปีก่อน และปี 2565 อยู่ที่ 1,939 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน คิดเป็นเติบโตเฉลี่ย CAGR (ปี 2563-2565) ที่ 41% ทำให้ปัจจุบัน Valuation ของ NER ถูกมากเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิโดย PER ปี 2564 อยู่ที่ 6.9 เท่า คิดเป็น PEG 0.17 เท่า รวมถึงบริษัทมี Dividend Yield ถึง 5-6%