AEC ยกเลิกแผนลดพาร์เหลือ 1 บ. เล็งเปลี่ยนชื่อใหม่ “บล.บียอนด์”
บอร์ด AEC เคาะยกเลิกแผนลดพาร์เหลือ 1 บ. จาก 5 บ. เล็งเปลี่ยนชื่อใหม่ “บล.บียอนด์” จ่อชงประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น 23 ก.ค.นี้
บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2564 มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทพื่อพิจารณาการยกเลิกมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เกี่ยวกับการลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว โดยยกเลิกการลดมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัท (ลดพาร์) จากมูลค่าที่ตราไว้มูลค่าหุ้นละ 5 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้เนื่องจากหากมีการคัดค้านจากเจ้าหนี้ บริษัทจะต้องเจรจากับเจ้าหนี้แต่ละรายเพื่อทำการชำระหนี้หรือวางหลักประกัน ซึ่งการชำระหนี้หรือวางหลักประกันอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อการสู้คดีของบริษัทฯ ในกรณีที่คดีความยังไม่ถึงที่สุด ดังนั้น เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดจากการเจรจากับเจ้าหนี้แต่ละรายเพื่อทำการชำระหนี้ หรือวางหลักประกันโดยเฉพาะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและเพื่อเป็นการพิทักษ์สิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทฯ ตามกฎหมาย
โดยในการพิจารณาทางด้านภาษีอากร การที่บริษัทมีขาดทุนสะสม จะสามารถนำผลขาดทุนสะสมที่มี มาใช้เพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ ในเชิงภาษีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในอนาคตหากบริษัทสามารถสร้างผลประกอบการที่มีกำไรก็จะได้รับยกเว้นภาษีได้ไม่เกิน 5 รอบระยะเวลาบัญชีแม้ว่าจะไม่มีการลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสมทางบัญชี ทั้งนี้ ตามงบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับไตรมาส 1/64 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.64 บริษัทมีขาดทุนสะสมทางบัญชีอยู่จำนวน 920.29 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่อาจจะกระทบต่อผลประโยชน์ตอบแทนของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี ครั้งที่6 (AEC-W6)
อย่างไรก็ดีหากบริษัทฯ ดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างทุนตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ทุกประการ ยกเว้นการลดทุนด้วยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ กล่าวคือ ดำเนินการเรื่องการเพิ่มทุนชำระแล้ว และการรวมมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จะไม่ปรากฏว่ามีข้อแตกต่างต่อส่วนของผู้ถือหุ้น แต่จะมีผลต่อยอดขาดทุนสะสมและส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นของบริษัทฯ ที่จะไม่เปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม จากการประเมินตามข้อเท็จจริงพบว่า หากบริษัทสามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมได้ครบทั้งจำนวน 2,856,581,019 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.35 บาท จะส่งผลให้อัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อทุนชำระแล้ว หักด้วยส่วนต่ำมูลค่าหุ้นทั้งหมด จะมีค่ามากกว่า 50% ซึ่งบริษัทจะประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามคุณสมบัติของหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาการพ้นเกณฑ์ C ต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทฯ และแก้ไขบริคณห์สนธิเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท เป็น บล.บียอนด์
โดยกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 ในวันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 (Record Date) ในวันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม 2564