STGT คาดโรงงานสุราษฎร์ฯ กลับมาผลิตต้นสัปดาห์หน้า พร้อมย้ำสินค้าปลอดภัยได้มาตรฐาน
STGT คาดโรงงานสุราษฎร์ฯ กลับมาผลิตต้นสัปดาห์หน้า ส่วนโรงงานตรังเร่งคุมสถานการณ์โควิดต่อเนื่อง พร้อมย้ำสินค้าปลอดภัยได้มาตรฐาน-ไม่ขาดตลาด
นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT เปิดเผยว่า จากกรณีพบพนักงานรายวันในโรงงานจังหวัดตรังและโรงงานจังหวัดสุราษฎร์ธานีติดเชื้อโควิด-19 นั้น โรงงานสุราษฎร์ธานีคาดว่าพร้อมกลับมาดำเนินการผลิตอีกครั้งภายใต้ช่วงต้นสัปดาห์หน้า หลังจากได้ดำเนินการตามมาตรการต่างๆ ในด้านสุขอนามัยและความสะอาด พร้อมทั้งตรวจหาเชื้อพนักงานในโรงงานทั้งหมดแล้ว
ส่วนโรงงานจังหวัดตรัง บริษัทฯได้ประสานงานและให้ความร่วมมือกับจังหวัด สาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ โดยเร่งตรวจหาเชื้อพนักงานโรงงานตรังทุกคน ดำเนินการกักตัวพนักงานกลุ่มเสี่ยงที่ตรวจไม่พบเชื้อและตรวจหาเชื้อบุคคลในครอบครัว เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด ลดผลกระทบที่จะเกิดกับชุมชน และเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
ทั้งนี้ แม้บริษัทฯ หยุดการผลิตโรงงานตรังและโรงงานสุราษฎร์ธานีเป็นการชั่วคราว แต่ขอให้ความมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาสินค้าถุงมือยางขาดตลาดสำหรับตลาดไทย โดยบริษัทมีแผนการส่งมอบให้กับลูกค้าภายในประเทศในอัตราที่สูงกว่าในอดีตที่ผ่านมา มีสินค้ามากเพียงพอในท้องตลาด เพื่อป้องกันการฉกฉวยโอกาสขึ้นราคาจากสถานการณ์ในช่วงระยะเวลานี้ และรักษาราคาสินค้าอยู่ในระดับที่เหมาะสม เป็นธรรม โดยได้จัดสรรคำสั่งซื้อสินค้าบางส่วนไปผลิตยังโรงงานหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อผลิตสินค้ารองรับการจำหน่ายในประเทศและส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการผลิตสินค้าเพื่อรองรับความต้องการใช้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่
อีกทั้งบริษัทขอให้ความมั่นใจด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ถุงมือยางกับผู้บริโภค โดยบริษัทได้ดำเนินมาตรการด้านสุขอนามัยและความสะอาดอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอนการผลิตภายในโรงงานตามมาตรฐาน เพิ่มความถี่ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในโรงงานและชุมชนโดยรอบ เพื่อส่งมอบสินค้าที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ นอกจากนี้บริษัทฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ได้แก่ ISO13485, ISO9001, ISO22000 (Food Safety) & HACCP, Thai GMP และฮาลาล ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันถึงมาตรฐานระดับสากล
นิชอกจากนี้บริษัทได้วางแนวทางดูแลพนักงานโรงงานในช่วงกักตัวทุกคน โดยเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายและดูแลสวัสดิการต่างๆ เช่น อาหาร น้ำดื่ม ค่าที่พัก เป็นต้น ซึ่งแบ่งการกักตัวเป็น 2 ส่วน พนักงานที่กักตัวภายในโรงงาน และแบ่งพนักงานอีกส่วนหนึ่งกักตัวในโรงแรมที่อยู่พื้นที่ใกล้เคียงโรงงานเพื่อลดความแออัดภายในพื้นที่ โดยหากพนักงานที่ทราบผลว่าติดเชื้อในระหว่างการกักตัว บริษัทฯ จะประสานสาธารณสุขจังหวัดเพื่อส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลและทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นที่พักอาศัยทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
สำหรับการวางมาตรการด้านสุขอนามัยและมาตรการความสะอาด บริษัทให้ความสำคัญในทุกขั้นตอน โดยก่อนเข้าภายในโรงงานและไลน์การผลิต พนักงานทุกคนต้องผ่านการคัดกรองต่างๆ อาทิ การตรวจวัดอุณหภูมิและฉีดพ่นแอลกอฮอล์, สวมใส่หน้ากากอนามัย, ล้างมือด้วยสบู่และแช่น้ำยาฆ่าเชื้อ, สวมเสื้อคลุมและหมวกคลุมผม ฯลฯ เพื่อป้องกันสิ่งปนเปื้อนและในระหว่างการปฏิบัติงานจะมีการสเปรย์แอลกอฮอลล์แก่พนักงานเป็นระยะๆ ตลอดช่วงการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ในกระบวนการผลิตถุงมือยางจะใช้ระบบอัตโนมัติแบบต่อเนื่องและเป็นกระบวนการผลิตที่ผ่านความร้อนในระดับสูง รวมถึงมีระบบการทำความสะอาดตามมาตรฐาน GMP (Good Manufacturing Practice)
ส่วนในกระบวนการบรรจุหีบห่อ พนักงานต้องใส่ชุดและอุปกรณ์ตามมาตรฐาน GMP ล้างมือและแช่น้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าพื้นที่ ใช้แอลกอฮอลล์ทุกครั้งก่อนบรรจุสินค้า โดยจะไม่มีการสัมผัสกับสินค้าโดยตรงและมีการสุ่มตรวจหาเชื้อในผลิตภัณฑ์ ฉีดสเปรย์แอลกอฮอลล์เป็นระยะๆ ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่พนักงานสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ทำความสะอาดพื้นที่ก่อนเริ่มปฏิบัติงานและระหว่างการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันสารปนเปื้อน โดยผลิตภัณฑ์จะถูกบรรจุในกล่องอย่างมิดชิด ส่วนในกระบวนการจัดส่ง มีการตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานสากล ควบคุมพื้นที่จัดเก็บสินค้าและพนักงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องปฏิบัติมาตรฐาน GMP และสุขอนามัยที่ดี
ทั้งนี้ บริษัทได้ยกระดับมาตรการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อพื้นที่ภายในโรงงานและชุมชนโดยรอบโรงงาน เช่น ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในโรงอาหารทุกวัน จากเดิมทุก 3 วัน บ้านพักพนักงานและชุมชนโดยรอบโรงงาน ทุก 3 วัน จากเดิมทุก 7 วัน และชุมชนโดยรอบทุก 3 วัน จากเดิมทุก 7 วัน, เพิ่มแม่บ้านทำความสะอาดโรงงานตลอดทั้งวัน, จัดทำตู้อุโมงค์ฆ่าเชื้อ 5 จุด บริเวณทางเข้าโรงงานและบ้านพัก, ติดตั้งเครื่องอบโอโซนเพิ่มฆ่าเชื้อในห้องประชุมและสำนักงานทุกวัน
ด้านพนักงานได้วางมาตรการเพิ่มเติม ได้แก่ 1.ตรวจคัดกรองอาการเบื้องต้น ได้แก่ ไข้ ไอแห้ง เจ็บคอตาแดงและผื่นตามตัว หากพบอาการให้หยุดปฏิบัติงานทันที 2.จัดเตรียมมาตรการลดความหนาแน่น โดยสลับวันหยุดพนักงาน จัดเวลาทำงานแบบเหลื่อมล้ำกัน 3.ซัพพลายเออร์จากต่างจังหวัดจะต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบก่อนเข้าโรงงานเพื่อส่งมอบสินค้า 4.ตรวจหาเชื้อ COVID-19 พนักงานใหม่ทุกคน 5. สัมภาษณ์งานผ่านระบบออนไลน์ 6.อาคารพยาบาลจะเปิดให้บริการเฉพาะกรณีฉุกเฉิน ดังนั้นขอให้ลูกค้าและผู้บริโภคทุกคนมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ถุงมือยางของบริษัทฯ มีความปลอดภัยอย่างแน่นอน