SET สัปดาห์นี้ “แกว่งในกรอบ” 1,600-1,639 จุด กลยุทธ์เน้นรายกลุ่ม Earnings+Global Play
SET สัปดาห์นี้ “แกว่งในกรอบ” 1,600-1,639 จุด กลยุทธ์เน้นรายกลุ่ม Earnings+Global Play พร้อมชู KBANK, SAPPE, ICHI หุ้นเด่น
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (7-11 มิ.ย.64) Weekly outlook: “แกว่งในกรอบ” ต้าน 1627/1639 จุด รับ 1600/1580 จุด
(-) US CPI : นักลงทุนจับตารายงานตัวเลข CPI เดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ 10 มิ.ย.นี้ Consensus คาดที่ 4.6%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนโตจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.2%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจะยิ่งสนับสนุนการตัดสินใจของ FED ในการพิจารณายุตินโยบายผ่อนคลาย กดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยง
(*) ECB Meeting : การประชุม ECB วันที่ 10 มิ.ย. Nomura คาดไม่มีการออกมาตรการเพิ่มเติม แต่แนะติดตามมุมมองต่อเศรษฐกิจ หลังการแพร่ระบาดดีขึ้น และวัคซีนในยูโรโซนฉีดไปกว่า 39% ของประชากร นำไปสู่การทยอยเปิดประเทศ
(-) Fund Flows : Fund Flows ในเอเชียสัปดาห์ที่ผ่านมา (จ-พฤ) เป็น Net Buy ที่ 1,541 ล้านเหรียญ โดยเป็น Net Buy ในทุกประเทศ เป็นแรงขับเคลื่อนตลาดเอเชียปรัยตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ระมัดระวัง Flows ผันผวนหลังจากนี้ เนื่องจากค่าเงินดอลล่าร์แข็งค่าขึ้นไว จะทำให้ค่าเงินเอเชียอ่อนค่าในเชิงเปรียบเทียบได้
(+/-) Vaccine : วัคซีนมีประเด็นบวกลบผสมผสานกัน หลังบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ส่งมอบวัคซีนล็อตแรก 1.8 ล้านโดส แก่บริษัท AstraZeneca และทาง AstraZenecaจะทยอยส่งมอบให้รัฐบาลเป็นล าดับถัดไป ขณะที่มีกำหนดการส่งอีก 6 ล้านโดสในเดือนนี้ ผสานกับวัคซีนของ Pfizer จำนวน 20 ล้านโดส และวัคซีนของ Johnson & Johnson 5 ล้านโดส อยู่ระหว่างการหารือในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว คาดนำเข้าได้ช่วงไตรมาส 3/64 แต่ประเด็นที่รพ.หลายแห่งและราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากรัฐฯ ทำให้ไม่สามารถฉีดเข็มแรกได้ฉุดรั้งประเด็นบวกนี้
(*) The New Borrowing Decree : พ.ร.ก.กู้เงินวงเงิน 5 แสนล้านบาท (3.21% ของ GDP) จะเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ และคาดจะเริ่มใช้จ่ายได้ปลายไตรมาส 2 ซึ่งจะช่วยเพิ่ม GDP ปี 2021 ได้ราว 0.71% แต่อย่างไรก็ดี Nomuraยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2564 ที่ระดับเดิมที่ 2.1% เนื่องจากให้น้ำหนักกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์ Covid-19 ที่ยังควบคุมไม่ได้ และการฉีดวัคซีนที่ล่าช้า
โดยคาดไทยฉีดวัคซีนได้ 30% ของประชากรช่วงไตรมาส1/2565 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยจะต้องใช้เวลาจนถึงไตรมาส3/2565 ก่อนจะฟื้นกลับมาได้เท่า Pre-Covid ช้ากว่าภูมิภาค
(*/-) Key to Watch : 1) ดัชนี CPI เดือนพ.ค.ของจีน จะรายงาน 9 มิ.ย. Consensus คาดที่ 1.6%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจาก 0.9%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในเดือนก่อน 2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.ของไทย จะรายงานวันที่ 10 มิ.ย. 3) Industrial Production เดือนพ.ค.ของอังกฤษจะรายงานวันที่ 11มิ.ย. คาดที่ 2.0% โตจาก 1.8% ในเดือนก่อนหน้า
กลยุทธ์การลงทุน : ประเมินตลาดจะได้รับแรงกดดันความเสี่ยงที่ FED จะพิจารณายุตินโยบายผ่อนคลาย โดยดัชนี CPI สหรัฐฯจะรายงาน 10 มิ.ย.นี้คาดโตต่อ ผสานความเสียง Outflows จากค่าเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่าไว กดดันตลาด
กลยุทธ์แนะ Selective รายกลุ่ม เน้น Earnings + Global Play (กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี กลุ่มโภคภัณฑ์ กลุ่มส่งออก และกลุ่มประกัน) และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการภาครัฐฯ ขณะที่คงน้ำหนักการลงทุนที่ 50%
หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ KBANK, SAPPE, ICHI ส่วนสัปดาห์ก่อน KSL, SAPPE, IRPC ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.54% ดีกว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 1.87%
1) KBANK (TP175) : พ้นแรงกดจาก MSCI ถอดออกระหว่างกาล เป็นจุดซื้อลงทุน
2) SAPPE (TP38) : คาดงบไตรมาส2/2564 จะฟื้นตัวเด่น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า จากทั้งภายใน-นอก
3) ICHI(Trad.): ลุ้นเข้า SET100 + งบไตรมาส 2 เข้าสู่จุดเติบโตเร่งตัว