NER เดินหน้าทำ “ออลไทม์ไฮ” ลุ้นชนเป้าใหม่ 9.50 บ. มองทิศทางราคา “ยาง” พุ่ง

ราคาหุ้น NER เดินหน้าทำ “ออลไทม์ไฮ” ต่อเนื่อง ขานรับเป้าใหม่ 9.50 บ. ฟากโบรกมองผลงานปีนี้โตรับทิศทางราคา “ยางพารา” พุ่ง คาดกำไรทั้งปีแตะ 1.66 พันลบ.


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหุ้น บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER หลังพบว่าราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรงวานนี้

ทั้งนี้ ราคาหุ้น NER ปิดตลาดวานนี้ปิดที่ระดับ 7.30 บาท บวก 0.45 บาท หรือ 6.57% สูงสุดที่ระดับ 7.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.95 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.8 พันล้านบาท

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายแห่งยังกำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายสูงสุดที่ระดับ 9.50 บาท

โดยบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น NER หลังมีรายงานข่าวออกมาว่าธุรกิจแผ่นรองนอนวัวมีความชัดเจน บริษัทคาดว่าจะสามารถเดินทางไปซื้อเครื่องจักรและติดตั้งได้ภายในปลายปีนี้ และสามารถเริ่มขายได้ในช่วงไตรมาส 1/65 ซึ่งบริษัทตั้งเป้าจะมีปริมาณขาย 300,000 แผ่น และรายได้ 560 ล้านบาทในปี 65

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวกจากเห็นความชัดเจนมากขึ้นจากธุรกิจแผ่นรองนอนวัวที่เลื่อนการติดตั้งเครื่องจักรมา 2 ไตรมาส จากผลกระทบของโควิดทำให้ไม่สามารถเดินทางไปซื้อเครื่องจักรได้ โดยธุรกิจแผ่นนอนรองวัวเป็นธุรกิจปลายน้ำที่มีมาร์จิ้นสูง ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมี Gross margin อยู่ที่ 23-25% และประมาณการว่าในปี 65 จะมีรายได้อยู่ที่ 560 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 125 ล้านบาท ซึ่งจะมี upside ต่อประมาณการ +6%

ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าชุมชนอยู่ระหว่างรอผลการประมูลซึ่งจะทราบผลในปีนี้ ซึ่งหากบริษัทเป็นผู้ชนะประมูลคาดว่าธุรกิจนี้จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 80 ล้านบาทมี upside ต่อประมาณการ +4%

ขณะที่บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุว่า ราคายางที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากซัพพลายน้ำยางข้นที่ใช้ในการผลิตถุงมือยาง และความต้องการใช้ยางพาราก็จะมากขึ้นทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ การขนส่ง โลจิสติกส์

อีกทั้งยางที่ผลิตเพื่อไปใช้สำหรับยางล้อรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ส่งผลบวกต่อแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัท ประกอบกับแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากไตรมาส 1/64 ที่ 12.82% ขณะที่ปี 64 บริษัทตั้งเป้าปริมาณการขาย 440,000 ตัน รายได้ที่ 2.45 หมื่นล้าน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2564 เพิ่มขึ้น 27.1% จาก 1,267 ล้านบาท เป็น 1,665 ล้านบาท จากแนวโน้มปริมาณการขายยางพาราและทิศทางราคายางพาราเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้ยังได้ผลบวกจากการประมูลยางพาราเก่าจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กว่า 100,000 ตัน ซึ่งราคาถูกกว่าตลาด จะช่วยหนุนประสิทธิภาพการทำกำไรให้สูงขึ้นต่อเนื่อง พร้อมแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ มีมุมมอง “บวก” ต่องานแถลงผลประกอบการ Opportunity Day โดยเป้ารายได้ที่ผู้บริหารมอบให้นักลงทุนเป็นการสะท้อนมุมมองของผู้ประกอบการว่าทิศทางราคายางในปี 2564 จะยืนอยู่ในระดับสูงกว่าสมมติฐาน และอาจหมายรวมถึงในปี 2565 อีกด้วย

ขณะที่ธุรกิจแผ่นรองนอนปศุสัตว์กลับมาเดินหน้าสู่แผนการรับรู้รายได้ในปี 2565 ตามประมาณการแล้วเช่นกัน ดังนั้นคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 7.70 บาท/หุ้น อิง P/E 8.0 เท่า

พร้อมกันนี้ ผู้บริหารเผยว่าหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 เรียบร้อยจะเดินทางไปทำสัญญาซื้อเครื่องจักรเพื่อนำมาติดตั้งในไตรมาส 4/64 เพื่อเริ่มผลิตและส่งออกในปี 2565 โดยตั้งเป้า 3 แสนแผ่นในปีแรก คิดเป็นเงิน 560 ล้านบาท (ต่ำกว่าสมมติฐาน 12%)

โดยตลาดส่วนใหญ่ เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น จีน เป็นต้น ซึ่งหากเป็นไปตามแผนธุรกิจทั้งหมด เป้ารายได้รวมในปี 2565 จะแตะ 29,340 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าประมาณการถึง 32% โดยจะทบทวนประมาณการปี 2565 อีกครั้งในช่วงหลังรายงานงบการเงินไตรมาส 2/64

Back to top button