SET สัปดาห์นี้ “แกว่งในกรอบ” 1,600-1,650 จุด-รอความชัดเจนประชุม FOMC

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SET สัปดาห์นี้ “แกว่งในกรอบ” 1,600-1,650 จุด-รอความชัดเจนประชุม FOMC แนะ KBANK,SAPPE,ICHI หุ้นเด่น


บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สัปดาห์นี้ (14-18 มิ.ย.64) Weekly outlook: “แกว่งในกรอบ” ต้าน 1639/1650 จุด รับ 1616/1600 จุด

(*) FOMC Meeting : 15-16 มิ.ย.นี้ จับตามุมมองของ FED ต่อนโยบายผ่อนคลายหลังตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแรง ขณะที่ Nomura ปรับมุมมอง โดยประเมิน FED จะเริ่มพิจารณา tapering ในเดือนก.ค. (เดิมคาดเดือนนี้) หลังตัวเลขแรงงานผสมผสาน

(-) Fund Flows : Fund Flows ในเอเชียสัปดาห์ที่ผ่านมา (จ-พฤ) เป็น Net Sell ที่ -245 ล้านเหรียญ หลักๆมาจากแรงขายในเอเชียเหนืออย่างเกาหลี ไต้หวัน ส่วนกลุ่ม TIPs เป็นภาพซื้อสลับขาย โดยเฉพาะไทยที่ทิศทาง Fund Flows ยังขาดเสถียรภาพ

(*/-) Covid-19 & Vaccine : ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันทรงตัวบริเวณ 2 พันราย ขณะที่ประเด็นวัคซีนมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น หลังจำนวนการฉีดวัคซีนรายวันลดลงอย่างต่อเนื่อง จาก 4 แสนโดส/วัน เหลือ 2 แสนโดส/วัน โดยปัจจุบันไทยฉีดวัคซีนไป 5.3%ของประชากร ส่วนการส่งมอบวัคซีน AZ มีการเลื่อนออกไป ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่แผนเร่งฉีดวัคซีนจะสะดุด ดังนั้น แนะจับตาจำนวนการฉีดวัคซีนเพือจะเป็นตัวบ่งชี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

FTSE Rebalance : น้ำหนักการลงทุนของไทยใน FTSE All World Ex US +0.01%สู่ 0.59% เพิ่มราว +66.8 ล้านเหรียญฯ โดยหุ้นที่เข้าใหม่ FTSE All World Index ได้แก่ OR 90 ล้านเหรียญฯ, SCGP 75.4 ล้านเหรียญฯ เพิ่มน้ำหนัก CBG 11 ล้านเหรียญฯ, OSP 8 ล้านเหรียญฯ ลดน้ำหนัก BBL-R, PTT, SCC, CPALL, AOT, SCB,KBANK-F ตัวละ -13 ถึง -5 ล้านเหรียญฯ ไม่มีหุ้นออก ส่วน FTSE Small Cap หุ้นเข้าใหม่ คือ KEX หุ้นออก คือ THAI และสุดท้าย FTSE Micro Cap หุ้นที่เข้าใหม่ ได้แก่JR, NEX, NRF, RT, SA, SO ขณะที่ไม่มีหุ้นออก ทั้งหมดมีผลราคาปิด 18 มิ.ย.นี้

SET50/100 Rebalance Update : ตลาดจะประกาศการคัดเลือกหุ้นเข้าออกในช่วงกลางเดือนมิ.ย. และมีผลเริ่มใช้ 1 ก.ค. โดยเราอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจากการคำนวณล่าสุดของเรา หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 รอบนี้มี 4 บริษัท คือ STGT, IRPC,STA, KCE หุ้นคาดว่าจะหลุด SET50 ได้แก่ AWC, HMPRO, TOA, VGI ส่วนหุ้นที่คาดเข้า SET100 รอบนี้มี 9 บริษัท คือ STGT, RCL, PSL, PTL, SYNEX, SINGER,ICHI, TKN, AAV ขณะที่หุ้นที่คาดว่าจะหลุด SET100 รอบนี้ 9 บริษัท คือ AWC,BCPG, BPP, HMPRO, MBK, TOA, TPIPP, TTW, WHAUP

(*/-) Key to Watch : 1) รายงานตัวเลข Industrial Production ของยุโรป(14 มิ.ย.)สหรัฐฯ(15มิ.ย.) และจีน(16มิ.ย.) Consensus คาดของยุโรปฟื้น ส่วนสหรัฐฯและจีนอ่อนตัวลงเล็กน้อย และจีน 2)การประชุม BOJ 17-18 มิ.ย. คาดคงดอกเบี้ย

กลยุทธ์การลงทุน : ประเมินตลาดแกว่งในกรอบรอความชัดเจนของการประชุม FOMC ส่วนภายใน ตลาดให้น้ำหนักกับการเร่งฉีดวัคซีน แนะจับตาจำนวนการฉีดวัคซีนรายวัน หลังการส่งมอบวัคซีน AZ ส่อเลื่อน อาจลบสั้นๆ ต่อ Reopening กลยุทธ์ยังคงแนะนำ Selective รายกลุ่ม เน้น Earnings + Global Play (กลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี กลุ่มโภคภัณฑ์ กลุ่มส่งออก และกลุ่มประกัน) ขณะที่คงน้ำหนักการลงทุนที่ 50%

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : แนะนำ TIDLOR, SAPPE, ADVANC ส่วนสัปดาห์ก่อน KBANK,SAPPE, ICHI ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.42% ดีกว่าดัชนีฯที่ให้ผลตอบแทน 1.55%

1) TIDLOR (TP53) : แนวโน้มกำไรยังเติบโตระดับสูง + มี Platform Online เด่น

2) SAPPE (TP38) : คาดงบไตรมาส 2/2564 จะฟื้นตัวเด่น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า จากทั้งภายใน-นอก

3) ADVANC(TP218): เงินลงทุน 5G ใกล้เจอฐานเดียวกัน + Disney Hotstars หนุน

Back to top button