BGRIM ส่งซิกครึ่งปีหลังแจ่ม จ่อปิดดีล รฟฟ.ก๊าซ “เวียดนาม” 1,200MW
BGRIM มองผลงานช่วงครึ่งหลังของปี 64 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เตรียมปิดดีลโรงไฟฟ้าก๊าซ “เวียดนาม” กำลังผลิต 1,200MW
นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 ยังมีความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้านิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ประมาณ 10-15% และยังมีลูกค้าใหม่ที่เข้ามาอีกไม่ต่ำกว่า 40 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกันในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทยังจะจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม บ่อทอง วินด์ฟาร์ม 1&2 กำลังการผลิตติดตั้ง 16 เมกะวัตต์ ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าแล้ว 93.5% คาดว่าจะ COD ได้ในเดือนก.ค.64 และสิ้นปีนี้จะ COD โครงการโรงไฟฟ้า Hybrid สำหรับงานระบบไฟฟ้าและระบบน้ำเย็นสนามบินอู่ตะเภาในส่วนของโซลาร์ กำลังการผลิต 15 เมกะวัตต์ ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มที่ในปีถัดไป
“ปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มในกัมพูชาเข้ามาเต็มปี ซึ่งหากเทียบกับปีก่อนยังมีทิศทางที่เติบโตเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ขณะที่แม้ว่าราคาค่าก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบกับก่อนก็ยังถูกกว่าประมาณ 1% จึงมองว่าภาพรวมในไตรมาส 2/64 และครึ่งปีหลังยังอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง” นายฮาราลด์ กล่าว
สำหรับการซื้อกิจการ (M&A) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ จำนวน 2-3 โครงการ กำลังการผลิตรวม 600-700 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และอยู่ระหว่างศึกษาเข้าซื้อกิจการโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศหลายโครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ประเทศเกาหลี 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 170 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงครึ่งปีหลัง, โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ประเทศเวียดนาม กำลังการผลิต 200 เมกะวัตต์ รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม ในประเทศมาเลเซีย กำลังการผลิต 200-250 เมกะวัตต์ และยังมีส่วนต่อขยายอีกกว่า 150 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในครึ่งปีหลัง
นอกจากนี้ บริษัทยังศึกษาลงทุนโครงการพลังงานในยุโรปและสหรัฐอเมริกา และศึกษาโครงการโซลาร์รูฟท็อปในประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศโอมาน อย่างไรก็ตามคาดว่าปีนี้จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ไม่ต่ำกว่า 1,000 เมกะวัตต์ วางงบลงทุนปีนี้ไว้ประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทยังคงแผนการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า 7,200 เมกะวัตต์ ปี 68 จากสิ้นปีนี้จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ 3,089 เมกะวัตต์
นายฮาราลด์ กล่าวว่า ด้านความคืบหน้าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ( LNG to Power) ในประเทศเวียดนาม คาดเห็นความชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังนี้จำนวน 1 ดีล จากโครงการที่ดูไว้ราว 2-3 โครงการ ซึ่งโครงการดังกล่าว แบ่งเป็น สองเฟส โดยจะได้ข้อสรุปเฟสแรกในช่วงครึ่งปีหลัง ขนาดกำลังการผลิต 1,200 เมกะวัตต์ ส่วนเฟสสอง กำลังการผลิต 1,700 เมกะวัตต์ ยังอยู่ระหว่างการศึกษา
บริษัทยังเตรียมออกเสนอขายหุ้นกู้มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาทในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้ แบ่งเป็น หุ้นกู้ประมาณ 8,000 ล้านบาท และกรีนชูราว 2,000 ล้านบาท โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปลงทุนในโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และใช้คืนเงินกู้เดิมเพื่อลดต้นทุนภาระดอกเบี้ยให้ต่ำลง รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุดเวียนของบริษัท โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีการเตรียมกระแสเงินสดไว้กว่า 20,000 ล้านบาท