TRUBB เพิ่มทุน “อาร์โอ” 5:1 ราคา 2.20 บ.แถม “วอร์แรนต์” – เล็งนำ “เวิลด์เฟล็กซ์” เข้า SET
บอร์ด TRUBB มีมติเพิ่มทุน RO สัดส่วน 5:1 ที่ราคา 2.20 บ./หุ้น แถมฟรี “วอร์แรนต์” พร้อมเล็งนำ “เวิลด์เฟล็กซ์” หรือ WFX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 340,739,842 บาท จากเดิม 681,479,688 บาท เป็น 1,022,219,530 บาท ด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 340,739,842 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) และเพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 ที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น (TRUBB-W2) โดยเป็นการเพิ่มทุนแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน จำนวน 272,591,874 หุ้น และการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 68,147,968 หุ้น ไม่เกินร้อยละ 10 ของทุนชำระแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวน 136,295,937 หุ้น อัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม๋ ราคาขาย 2.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่า 299,851,061.40 บาท และอีกจำนวน 136,295,937 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ TRUBB-W2 เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ที่จองซื้อและชำระค่าหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยมีอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อ 1 หน่วย TRUBB-W2 ไม่คิดมูลค่า อายุ 3 ปี ราคาใช้สิทธิ 6.00 บาท/หุ้น
ด้านบริษัทกำหนดให้วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นพร้อม TRUBB-W2 (Record Date) ในวันที่ 9 สิงหาคม 2564 และกำหนดวันจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2564 ถึงวันที่ 8 กันยายน 2564 ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ถึง 15.00 ในวันทำการของบริษัทฯ
บริษัทมีความจำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินทุน ซึ่งไม่เป็นภาระกับผู้ถือหุ้นเดิมเกินกว่าความจำเป็น และเพื่อให้ได้เงินทุนเพียงพอในการบริหารงาน โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อจะช่วยให้บริษัทฯ มีฐานเงินทุนที่เข้มแข็ง พร้อมสำหรับการลงทุนในอนาคต โดยมีโครงการ 1) ขยายธุรกิจน้ำยางข้นและน้ำยางแปรรูป จำนวนเงิน 99.85 ล้านบาท 2)เพื่อใช้เป็นเงินทุนให้กับธุรกิจการผลิตและจำหน่ายถุงมือยาง จำนวน 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ได้เตรียมทุนเพื่อสำรหับความพร้อมสำหรับความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนที่อาจเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในธุรกิจการผลิตและจำหน่ายถุงมือยาง และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ โดยส่วนนี้จะนำเงินจากการเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ เท่ากับ 2.98 เท่า 2.56 เท่า และ 2.36 เท่า ในปี 62 ปี 63 และไตรมาส 1/64 ตามลำดับ ซึ่งการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความมั่นคงให้แก่ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ และทำให้บริษัทมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินในการดำเนินการโครงการในอนาคต เพื่อขยายฐานลูกค้าในระยะยาว และเป็นแหล่งเงินสำรองไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการดำเนินงานของบริษัทฯ
จากงบการเงิน ณ วันที่ 31 มี.ค.64 บริษัทมีเงินสด 117.13 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดหนี้คงค้างระยะสั้นที่บริษัทฯ ต้องชำระคืนแก่ธนาคารพาณิชย์ ที่จำนวนรวมประมาณ 4,634.39 ล้านบาท (ณ วันที่ 31 มี.ค.64) คณะกรรมการบริหารคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถต่ออายุหนี้สินระยะสั้นเกือบทั้งหมดออกไปได้ อย่างไรก็ดี คณะกรรมการบริหารเห็นว่าในการลงทุนเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของการผลิตน้ำยางข้น และถุงมือยาง หากบริษัทฯ ทำการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเพื่อใช้ในการลงทุนดังกล่าว จะส่งผลให้ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทเพิ่มขึ้น และทำให้สัดส่วนทางการเงินของบริษัทฯ ดีขึ้นด้วย นอกจากนี้จะทำให้บริษัทมีเงินสดสำรองเพิ่มเติม เพื่อให้มีสภาพคล่องเพียงพอในการบริหารกิจการ
ทั้งนี้ ในการขยายธุรกิจผลิตถุงมือยางและจำหน่ายถุงมือยาง บริษัทฯ พิจารณาว่าเป็นโอกาสในการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจกลุ่มดังกล่าว เนื่องจากด้วยสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ลูกค้ามีความต้องการถุงมือยาง และสินค้าเติบโตมากขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นการขยายต่อยอดน้ำยางข้นและน้ำยางแปรรูป เป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจ โดยรวมที่น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นในหลายประเทศและความต้องการในกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำยางข้นและน้ำยางแปรรูปมากขึ้น บริษัทฯ ได้เล็งเห็นศักยภาพและโอกาสในการเติบโตและโอกาสในการเพิ่มแหล่งรายได้ให้แก่บริษัทฯ ในอนาคต เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นโดยรวม
บริษัทคาดว่าจะดำเนินการออกเสนอขายและจัดสรรหุ้นให้ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) รวมทั้งได้รับเงินจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/64
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติแผนการนำ บมจ. เวิลด์เฟล็กซ์ (WFX) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ WFX นั้น การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ WFX ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีวัตถุประสงค์การระดมทุนเพื่อใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
โดย WFX จะนำหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนนการถือหุ้นของบริษัทฯ (Pre-emptive Rights) กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของ WFX และประชาชนทั่วไป จำนวนรวม 142,000,000 หุ้น โดยหลังจาก Spin-off แล้ว WFX จะยังคงเป็นบริษัทย่อยของ TRUBB เนื่องจากบริษัทยังคงมีอำนาจการควบคุมใน WFX
ในการนำ WFX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ WFX จะดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 322,200,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 464,200,000 บาท โดยการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 142,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ WFX จำนวนไม่เกิน 11,360,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทฯ (Pre-emptive Rights) ในราคาเดียวกันกับราคาที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) หากมีจำนวนหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ TRUBB หุ้นดังกล่าวจะนำไปจัดสรรให้แก่ประชาชนทัว่ ไปต่อไป
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ WFX จำนวนไม่เกิน 14,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของ WFX ในราคาเดียวกันกับราคาที่เสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) หากมีจำนวนหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงานของ WFX หุ้นดังกล่าวจะนำไปจัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไปต่อไป
- จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ WFX จำนวนประมาณ 116,440,000 หุ้น (รวมถึงหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรตามข้อ 1 และ 2) มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)
ทั้งนี้ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Preemptive Rights) กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานของ WFX และประชาชนทั่วไปจำนวน 142,000,000 หุ้นและนำ WFX เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว จะส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ใน WFX ลดลงจาก 95.59% เหลือ 66.35% ของทุนชำระแล้ว