ส่องกำไรไตรมาส 3-4 หุ้นแบงก์-พลังงานBBL เด่นสุด กลุ่มปตท.มีแรงปลายท้ายปี

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ต.ค.) ว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทจดทะเบียนในตลาดฯจะเริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2558 เริ่มจากธนาคารพาณิชย์เป็นกลุ่มแรก (TISCO ได้ประกาศไปแล้วตั้งแต่ค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา)

ซึ่งฝ่ายวิจัยคาดว่าผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ทั้ง 10 แห่งภายใต้ Coverage จะมีกำไรสุทธิหดตัวถึง 13.6% จากไตรมาสก่อนและหดตัว 17.9% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนผลกระทบหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ ของ SCB, KTB และ TISCO หลังจากการจัดชั้นลูกหนี้ SSI เป็น NPL รวมทั้งแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของ NPL ในกลุ่มลูกหนี้ SMEs

โดยคาดว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ใหญ่จะได้รับผลกระทบจากการหดตัวของกำไรสุทธิมากกว่ากลุ่มกลาง-เล็ก (เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง-เล็ก ได้รับผลกระทบไปแล้วตั้งแต่ปี 2557 ส่วนกลุ่มธนาคารพาณิชย์ใหญ่ เพิ่งได้รับผลกระทบหนักในไตรมาส 1 ปี 2558) ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิลดลงสูงสุดในไตรมาสนี้ คือ TISCO, KTB และ SCB ตรงข้ามกับธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่ากำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นคือ BBL

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4 ปี 2558 คาดว่าผลการดำเนินงานอาจยังดูไม่ดีนักเนื่องจากแนวโน้มการตั้งสำรองหนี้และค่าใช้จ่ายดำเนินงานอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากช่วงฤดูกาล ส่งผลให้ปี 2558 จะเป็นจุดต่ำสุดของธนาคารพาณิชย์ (หดตัว 11.7% จากปีก่อน) แต่จะฟื้นตัวได้ถึง 17.7% จากปีก่อนในปี 2559 หลังตั้งสำรองหนี้ฯ SSI จบแล้วและเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ

 

ด้านกลุ่มพลังงานไตรมาส 3 ปี 2558 คาดกำไรของกลุ่มฯจะปรับตัวลดลงแรงจากธุรกิจปิโตรเลียมเป็นหลักทั้งในส่วนของ PTTEP ที่คาดราคาขายผลิตภัณฑ์จะปรับตัวลดลงและความเสี่ยงที่อาจเกิดการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ (impairment charges) เพิ่มเติมทั้งยังอาจเกิดผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทที่อ่อนค่าในช่วงก่อนหน้านี้

ส่วน PTT อาจมีเรื่องของผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันจากกลุ่มโรงกลั่นอีกด้วย อย่างไรก็ตามในไตรมาส 4 ปี 2558 คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวจากไตรมาส 3 ปี 2558 โดย PTT น่าจะดีขึ้นในส่วนของธุรกิจโรงกลั่นที่จะเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงฤดูกาลอีกครั้งและธุรกิจปิโตรเคมีที่จะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลช่วงสต๊อกผลิตภัณฑ์เพื่อการผลิตสินค้าไว้รองรับช่วงเทศกาลปีใหม่

ด้านแนวโน้มราคาน้ำมันน่าจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีเมื่อเทียบกับในไตรมาส 3 ปี 2558 น่าจะเป็นผลดีต่อทั้ง PTT และ PTTEP โดยรวมแล้วคาดแนวโน้มกำไรปี 2558 ของ PTT จะเติบโต 57.1% จากปีก่อนผลมาจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้ง NGV และ LPG ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว ขณะที่แนวโน้มกำไรในปี 2558 ของ PTTEP จะลดลง 16.8% จากปีก่อนแต่จะดีดตัวแรงในปี 2559 ถึง 70.3%

 

ที่มา: บทวิเคราะห์ Market Talk