โบรกฯเสิร์ฟ 5 หุ้นเก็งกำไร Q3-Q4 โดดเด่น

เปิดกลยุทธ์ลงทุน 5 หุ้นคาดกำไร Q3-Q4 เติบโตโดดเด่น มีปัจจัยหนุนเฉพาะ แถมมีลุ้นกำไรปี 59 เติบโตต่อเนื่อง


บล.เอเซีย พลัส ได้ทำการคัดเลือกหุ้นที่คาดว่าจะมีการเติบโตของกำไรโดดเด่นในไตรมาส 3/58 หรือ 4/58 และต่อเนื่องในปี 2559 โดยมีการวิเคราะห์ที่น่าสนใจและมีประโยชน์ต่อนักลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งมีทั้งหมดดังนี้

 

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI (ราคาเป้าหมาย 27.57 บาท) คาดการณ์ไตรมาส 3/58 ทรงตัวใกล้เคียงไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากลูกค้าชะลอการโอนฯ เพื่อรอมาตรการอสังหาฯ ของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้โอนได้ไม่มาก สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/58 คาดจะเป็นจุดสูงสุดของปี จากยอดโอนฯ ที่เพิ่มมากขึ้น

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU (ราคาเป้าหมาย 26 บาท) คาดการณ์ไตรมาส 3/58 ต่ำกว่าคาดมาก จากเดิมที่คาดว่าจะเป็นจุดสูงสุดของปี แรงกดดันมาจากธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ลดลง ส่วนไตรมาส 4/58 คาดว่าจะพลิกกลับมาเติบโตได้ แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ฝ่ายวิจัยเตรียมปรับลดประมาณการปีนี้และปีหน้าลง ฝ่ายวิจัยจึงแนะนำเพียง ถือ เพื่อรับเงินปันผล

บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC (ราคาเป้าหมาย 67.5 บาท) คาดการณ์ไตรมาส 3/58 กำไรหดตัวแรงมากถึง 84.8% จากไตรมาสก่อน มาจากการขาดทุนสต็อกน้ำมันของธุรกิจโรงกลั่น และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และเช่นกัน ผลกำไรปกติก็ชะลอตัว ตามธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ โดยมีเพียงธุรกิจโอเลฟินส์เท่านั้นที่ยังโดดเด่น อย่างไรก็ตามไตรมาส 4/58 คาดว่าจะพลิกกลับมาเติบโตเนื่องจากไม่มีบันทึกขาดทุนสต็อกน้ำมันและขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลของโรงกลั่นและปิโตรเคมี ส่งผลให้คาดว่าปี 2558 กำไรจะเติบโตสูงถึง 97.8% และ 18.4% ในปี 2559 แต่ฝ่ายวิจัยแนะนำเพียงถือรับปันผล เนื่องจากในระยะสั้นยังไม่มีโครงการลงทุนใหม่เข้ามา

บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT (ราคาเป้าหมาย 11.4 บาท)  คาดว่าไตรมาส 3/58 กำไรสุทธิจะสูงสุด ตามฤดูกาลส่งออกเนื้อไก่ แต่คาดว่าไตรมาส 4/58 กำไรจะกลับมาหดตัวเนื่องจากพ้นช่วงส่งออก รวมทั้งผลจากเทศกาลกินเจทำให้ปริมาณขายลดลง ส่งผลให้ทั้งปี 2558 กำไรหดตัวถึง 50.4% ส่วนแนวโน้มปี 2559 คาดว่าจะพลิกกลับมาเติบโตราว 16.4% จากปริมาณส่งออกไก่ที่เพิ่มขึ้น แต่ฝ่ายวิจัยแนะนำเพียงถือ เนื่องจาก upside จำกัด แม้จะปรับไปใช้ Fair Value ปีหน้าแล้วก็ตาม

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT(ราคาเป้าหมาย 360 บาท) ในเบื้องต้นคาดว่าไตรมาส 3/58 จะขาดทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาท ผลจากขาดทุนของ PTTEP ที่ PTT ถือหุ้นอยู่ 65.29% รวมถึงรายการพิเศษต่างๆ ได้แก่ การบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และขาดทุนสต๊อกน้ำมัน แต่คาดกำไรในไตรมาส 4/58 จะเห็นการฟื้นตัวจากไตรมาส 3/58 จากทั้งในส่วนของธุรกิจโรงกลั่นที่คาดจะเริ่มกลับเข้าสู่ช่วงฤดูกาลฤดูหนาวอีกครั้ง และธุรกิจปิโตรเคมีที่จะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลช่วงสต๊อกผลิตภัณฑ์เพื่อการผลิตสินค้าไว้รองรับช่วงเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน อีกทั้งคาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันน่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี เมื่อเทียบกับในไตรมาส 3/58 เบื้องต้นคาดแนวโน้มกำไรปี 2558 มีกำไรสุทธิราว 5 หมื่นล้านบาท ก่อนที่จะกลับมาเติบโตที่ระดับ 1 แสนล้านบาทในปี 2559

 

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นน้องใหม่ในกลุ่มโฆษณากลางแจ้งที่มีศักยภาพอีกบริษัทหนึ่งคือ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB (ราคาเป้าหมาย 8 บาท) คาดกำไรในครึ่งปีหลังของปี 2558 จะเติบโตโดดเด่นสวนทางเศรษฐกิจ จากการขยายตัวของสื่อโฆษณาดิจิตอล และการขยายสื่อบนรถประจำทางปรับอากาศที่ให้บริการ WIFI ฟรี  และในไตรมาส 2/58 ได้ร่วมมือกับพันธมิตรคือ Hello Bangkok ซึ่งเป็นผู้ให้บริการสื่อโฆษณากลางแจ้ง รายใหญ่อันดับ 3 (เป็นรอง VGI อันดับ 1 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BTS และ PLANB อันดับ 2) ซึ่งเริ่มทยอยรับรู้รายได้และกำไรตั้งแต่ไตรมาส 3/58 และคาดว่าจะรับรู้เต็มที่ในปี 2559 เป็นต้นไป ทำให้กำไรปี 2558 เติบโต 1.07 เท่าตัว และคาดจะเติบโตต่อเนื่องอีก 41% ในปี 2559 

 

*อนึ่ง ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้นเป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่านไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตามล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button