CPF ยันธุรกิจสัตว์น้ำพร้อมทำกำไรปีหน้าโบรกชี้ราคาน่าเก็บ อัพไซด์สูงกว่า 40%

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยถึงถึงผลการดำเนินงานบริษัทว่า จากผลกระทบของภาะวะเศรษฐกิจโลกและประเทศไทยที่ไม่ค่อยสดใสนักทำให้ยอดขายของไตรมาสที่ 3 ปี 2558 อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อนแต่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น จาก 14.3% ในปี 2557 เป็น 15% ในปี 2558 จากธุรกิจสัตว์น้ำที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้นเป็นลำดับจากวิกฤตโรค EMS ที่เกิดขึ้นในภูมิภาคในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมา

ความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจสัตว์น้ำได้มีการปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารจัดการเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินธุรกิจบริษัทคาดว่าธุรกิจสัตว์น้ำน่าจะกลับมาสร้างกำไรให้กับบริษัทได้ในปีหน้านี้

ขณะที่แนวกลยุทธ์ของบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในประเทศที่มีศักยภาพ ในการขยายตัวของการบริโภคในระยะยาวเช่นประเทศรัสเซียประเทศเวียดนามประเทศประเทศฟิลิปปินส์ และประเทศอินเดีย โดยเชื่อมั่นว่าจะส่งผลตอบแทนได้อย่างเหมาะสมกลับมาให้บริษัทในอนาคตโดยการเข้าซื้อกิจการถือเป็นหนึ่งในแนวทางหลักของการขยายธุรกิจหากกิจการนั้นอยู่ในแนวกลยุทธ์หลักและราคาเข้าซื้อมีมูลค่าเหมาะสม

“การเข้าซื้อกิจการก็เหมือนการขยายธุรกิจด้วยตัวเราเองเพียงแต่หากเราเข้าซื้อธุรกิจที่ถูกต้องบริษัทก็จะได้มาซึ่งบุคลากรที่พร้อมบริหารธุรกิจต่อเนื่องและบริษัทจะได้ผลการดำเนินงานเข้ามาในงบการเงินทันที” นายอดิเรกกล่าวปิดท้าย

 

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า CPF รายงาน กำไรปกติไตรมาส 3 ปี 2558 ตามคาดที่ 3.57 พันล้านบาท พลิกจากที่ขาดทุนในไตรมาสก่อน ขณะที่บริษัทมีกำไรปกติ 9 เดือนแรกของปี 2558 เท่ากับ 1,434 ล้านบาท คิดเป็น 63% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 4 ปี 2558 น่าจะอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนตามฤดูกาล โดยล่าสุดราคาเนื้อสัตว์ยังไม่สดใสนัก เนื่องจากยังไม่ฟื้นตัวจากราคาที่อ่อนตัวลงในช่วงเทศกาลกินเจ

ขณะที่การควมรวม 2 ธุรกิจไก่ในรัสเซีย (Woyskovitsy และ Severnaya) จะแล้วเสร็จปลายเดือน พ.ย. ซึ่งเลื่อนออกมาจากเดิมที่คาดจะแล้วเสร็จใน ต.ค. จึงน่าจะช่วยหนุนผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2558 ได้ไม่มากนัก ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2558 ไว้ที่ 2.28 พันล้านบาท

ส่วนปี 2559 คาดกำไรปกติจะกลับมาเติบโตอีกครั้งราว 2.8 เท่าของปี 2558 เป็น 6.38 พันล้านบาท จากฐานที่ต่ำและการฟื้นตัวของราคาเนื้อสัตว์ รวมถึงการรวมผลประกอบการของ 2 ธุรกิจใหม่ที่รัสเซียเต็มปี ยังคงราคาเป้าหมายปี 2559 เท่ากับ 28 บาท มี Upside 40.7% ราคาหุ้นที่ปรับลดลงได้สะท้อนผลการดำเนินงานที่อ่อนแอในปีนี้ไปแล้ว คงคำแนะนำซื้อ 

 

ด้านราคาหุ้น CPF ปิดตลาด (12 พ.ย.) ที่ 19.50 บาท ลบ 0.40 บาท หรือ 2.01% สูงสุดที่ 19.90 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 295.89 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) ลบ 0.42%