PRM แย้มผลงาน Q3 โตเด่น รับขยายกองเรือ-ดีมานด์ขนส่งเพิ่ม
PRM แย้มผลงานไตรมาส 3/65 โตดี รับขยายกองเรือ-ดีมานด์ขนส่งเพิ่ม ส่วนไตรมาส 4/65 เด่นต่อ ไฮซีซั่น-รับรู้เรือ VLCC เต็มไตรมาสหนุนเด่น
นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานในไตรมาส 3/65 คาดจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากการขยายกองเรือขนส่งระหว่างประเทศขนาด VLCC เพิ่ม 1 ลำช่วงต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ในขณะที่เรือ VLCC 2 ลำที่เข้ามาก่อนหน้านี้เตรียมรับรู้รายได้เต็มไตรมาส ทำให้กองเรือขนาด VLCC ของบริษัทรวมเป็น 3 ลำ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ครบทุกลำตั้งแต่เดือนก.ย.65 เป็นต้นไปและจากการทำงานเต็มประสิทธิภาพของกลุ่มธุรกิจเรือ Offshore Support ซึ่งประกอบด้วยเรือ Crew Boat จำนวน 13 ลำ และเรือ AWB จำนวน 2 ลำ มีอัตราการใช้บริการเต็ม 100% ภายใต้สัญญาการให้บริการระยะยาวแก่กลุ่ม บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ซึ่งสอดรับกับกิจกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ธุรกิจเรือ FSU มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสนี้ หลังการฟื้นตัวของดีมานต์การใช้เรือ รวมถึงการบริหารจัดการกองเรืออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อมุ่งเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้จากการให้บริการผสมน้ำมันแก่ลูกค้า ในขณะที่ธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศ ยังคงมีการใช้เรืออยู่ในระดับสูง จากการได้รับปัจจัยเชิงบวกจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศหลังสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้การบริโภคน้ำมันภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น
“หลังจากที่เราได้บริหารจัดการพอร์ตกองเรือให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศและกลุ่มธุรกิจ Offshore Support มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นมาก สะท้อนขีดความสามารถการให้บริการและความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจของเรา ในฐานะที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะนำพาให้บริษัทฯ เติบโตและก้าวเข้าสู่ยุค Growth Mode รอบใหม่ และไตรมาสนี้นอกจากเรื่องผลการดำเนินงานที่โตอย่างก้าวกระโดดแล้ว เรายังมีข่าวดีจากการรับรู้กำไรพิเศษจากการขายเรือ ซึ่งจะช่วยให้ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้มีความโดดเด่นมาก” นายวิริทธิ์พล กล่าว
ส่วนทิศทางการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาผลการดำเนินงานที่โดดเด่นได้ต่อเนื่องจากไตรมาส 3 จากการที่เรือ VLCC ลำที่ 3 ของบริษัทฯ จะรับรู้รายได้เต็มไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 4/65 เป็นต้นไป รวมถึงผลการดำเนินงานของธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศที่คาดว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากไตรมาส 4 ของทุกปี จะเป็นช่วง High-Season ของการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย