SET ผันผวน จีดีพีจีนขยายตัวต่ำสุดในรอบ 25 ปีเก็บ 22 บจ.ร้อน หุ้นกลาง-เล็กเด่น เน้นเล่นสั้น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มอ่อนตัวหากจีนเผยตัวเลขเศรษฐกิจเช้านี้ออกมาไม่ดี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มปรับลงต่อเนื่อง โดยคาดว่าหุ้นขนาดกลางและเล็กน่าจะได้รับความสนใจในการซื้อขายระหว่างวันเป็นพิเศษ การลงทุนยังเน้นเล่นสั้นในช่วงที่ตลาดยังผันผวน


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.27 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายรายการ (ล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า GDP ปี 2558 ขยายตัว 6.9% ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 25 ปี)

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มอ่อนตัวหากจีนเผยตัวเลขเศรษฐกิจเช้านี้ออกมาไม่ดี ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังมีแนวโน้มปรับลงต่อเนื่อง โดยคาดว่าหุ้นขนาดกลางและเล็กน่าจะได้รับความสนใจในการซื้อขายระหว่างวันเป็นพิเศษ การลงทุนยังเน้นเล่นสั้นในช่วงที่ตลาดยังผันผวน

หุ้นเด่นเลือก KTB-TISCO-KKP-SAWAD-MTLS-GL-S11-INTUCH-ADVANC-SIRI-DIF-IRPC-SPRC-TOP-PTTGC-BCP-GUNKUL-AOT-EPG-CK-STEC และ CI 

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ม.ค.) ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิดลบ 0.06% ปริมาณการซื้อขายชะลอตัวอยู่ที่ระดับ 3.5 หมื่นล้านบาท ต่างชาติเป็นผู้ขายสุทธิหลัก 2.1 พันล้านบาท แต่กลับมามีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 8.1 พันสัญญา ส่งผลให้นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันยังมียอด Long สุทธิสะสม 5.14 หมื่นสัญญา ซึ่งเป็นสัญญาณสะท้อน Downside Risk ขาลงของตลาดหุ้นไทยเริ่มลดลง

ภาวะการซื้อขายตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบลดลงต่ำกว่า 29 USD./บาร์เรล ขณะที่ผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เช่น KKP, LHBANK ที่ประกาศออกมายังอยู่ในทิศทางดี ประเด็นสำคัญวันนี้ต้องติดตามรายงาน GDP ไตรมาส 4/58 ของจีน ซึ่งหากออกมาขะลอตัวจะส่งผลลบต่อภาคการส่งออกไทยในปี

กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนียังแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,230-1,260 จุด ให้น้ำหนักเพียงการเทรดดิ้งระยะสั้นในกรอบการลงทุนดังกล่าว

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ม.ค.) ว่า แม้การปรับลดลงของราคาน้ำมันจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่มีปัจจัยที่อาจทำให้เห็นการ Rebound ระยะสั้นๆ ได้ 1) ค่าเงินหยวนมีเสถียรภาพที่ 6.55 หยวน/ดอลลาร์ฯ 2) GDP ไตรมาส 4/58 จีนที่ประกาศเช้านี้ ถ้าออกมาดีกว่าคาดที่ 6.8% จะเป็นปัจจัยบวกระยะสั้น 3) จากสถิติช่วง 2005-2015 SET มีโอกาสปรับสูงขึ้นในเดือน ก.พ.-เม.ย.สูงถึง 70-80% โดยกลุ่มธนาคาร อสังหาฯ เป็นกลุ่มหุ้นที่มักจะปรับขึ้นในเดือน ก.พ.-เม.ย. (ดูรายงาน Pathumwan Corner วันที่ 15 ม.ค.)

SET โดยรวมยังถูกกดดันจากกลุ่มพลังงานทำให้ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว แต่ยังสามารถ “Selective” ได้ ดังนี้

1.กลุ่มธนาคาร Valuation ต่ำ ปันผลสูง KTB TISCO KKP

2.กลุ่ม Micro Finance ได้ผลดีจากเงินเฟ้อ และดอกเบี้ยอาจต่ำ อย่าง SAWAD MTLS GL และ S11

3.กลุ่มหุ้นปันผลสูง INTUCH ADVANC SIRI DIF IRPC

 

บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ม.ค.) ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ คาดว่าแกว่งตัวในกรอบแคบๆ และยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะกลับมาซื้อขายปกติในคืนวันนี้ และข้อมูลเศรษฐกิจจีน วันนี้จะมีการเปิดเผย GDP ปี 58 ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 6.9% เทียบกับปีก่อนนี้ที่ขยายตัว 7.3% ส่วน GDP ในไตรมาส 4/58 คาดว่าจะขยายตัวราว 6.7-6.8% ถ้าไม่ผิดจากที่ตลาดคาดมากนัก น่าจะเป็นแรงหนุนให้ราคาน้ำมันและตลาดหุ้นโลกดีขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน: เล่นสั้นๆ ในกรอบระหว่าง 1,230-1,265 จุด

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ม.ค.) ว่า ยังคงมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดในวันนี้ คาด SET น่าจะผันผวนอยู่ในกรอบแคบตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่เข้าสู่ตลาด แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยที่มีอิทธพลต่อตลาดจะยังคงเป็นแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่จะปรับลงอีกหลังอิหร่านส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มและค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า รวมถึงความความผันผวนของภาวะตลาดหุ้นจีนที่จะขึ้นอยู่กับรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/58 ของจีนเช้าวันนี้ (9.00 น) ซึ่งตลาดคาดจะเติบโต 6.8% ลดลงเล็กน้อยจาก 6.9% ในไตรมาส 3/58

ขณะที่ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าน่าจะออกมาตามคาด และขณะเดียวกันยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะกระทบตลาด ดังนั้นเราจึงคิดว่า SET น่าจะผันผวนอยู่ในกรอบแคบ โดยหุ้นขนาดกลางและเล็กน่าจะได้รับความสนใจในการซื้อขายระหว่างวันเป็นพิเศษ

กลยุทธ์วันนี้: ยังเน้น Selective BUY ในหุ้นขนาดกลางและเล็ก (โดยเฉพาะหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการปีนี้จะออกมาดีหรือมีลักษณะเฉพาะตัว (ตามที่เราแนะนำไว้ในประเด็นสำคัญด้านล่างนี้) /ลงซื้อ ขึ้นขายเพื่อเล่นรอบสั้น

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: กลุ่มโรงกลั่น (SPRC, TOP, PTTGC, BCP) (ได้ประโยชน์จากค่าการกลั่นพุ่งขึ้นแรง) 

ธุรกิจที่มีแนวโน้มดี: ธุรกิจท่องเที่ยว ก่อสร้าง โรงพยาบาล สินเชื่อรายย่อย ส่งออก และพลังงานทดแทน

หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตดีในปี 2016: SAWAD GUNKUL AOT EPG CK STEC และ CI 

Back to top button