3 หุ้นเด่น mai พิชิตตลาดหุ้นผันผวนเดือนแรกปีนี้ ราคาพุ่งทะลุเกิน 25%

3 หุ้นดาวเด่นพิชิตตลาดหุ้นผันผวน เฉพาะเดือนมกราคา 59 ราคาเพิ่มขึ้นเกิน 25%


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในตลาด mai โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกจากหุ้นที่มีการปรับตัวขึ้น 10 อันดับแรก ในช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 58 ถึงวันที่ 29 มกราคม 59 ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนจากเศรษฐกิจโลก รวมถึงราคาน้ำมันที่เป็นตัวกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก จากการสำรวจพบว่าหุ้นที่มีการปรับตัวสูงสุด 3 อันดับแรกที่มีการปรับตัวเกิน 25% มีดังนี้

 


อันดับแรก
บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางเพื่อขนส่งพนักงานของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกเขตนิคมอุตสาหกรรม

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ คาดว่ากำไรในไตรมาส 4/59 จะเติบโต 247% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 453% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และจะทำลายสถิติต่อเนื่องในไตรมาส 1/59 ขณะที่กำไรสุทธิ 2558-59 จะขยายตัวเพิ่มขึ้น 85% และเพิ่มขึ้น154% จากช่วงเดียวกันปีก่อนตามลำดับ โดยมีราคาเหมาะสมปีนี้อยู่ที่ 1.95 บาทต่อหุ้น อิง PER เฉลี่ยกลุ่มขนส่งฯ 22.8 เท่า

ขณะที่ ราคาหุ้น ATP30 ปิดตลาดวานนี้ (3 ก.พ.) อยู่ที่ 1.59 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 3.25% มูลค่าการซื้อขาย 19.42 ล้านบาท

 

อันดับสอง บริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ผู้ดำเนินธุรกิจผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มประเภทชาและกาแฟ ได้แก่ เครื่องดื่มในโถกดในร้าน 7-Eleven, เครื่องดื่มปรุงสำเร็จชนิดผง รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัท เช่น Zenya, VSlim,Sha Sha,Na-Arun และ Sawasdee

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำซื้อ TACC ด้วยราคาเป้าหมายที่ 6 บาท จากเดิม 4.25 บาท โดยมาจากการปรับเพิ่มประมาณการของกำไรและการปรับ PE ขึ้นเป็น 30 เท่า จากเดิม 25 เท่า ถือว่าใกล้เคียงกับ PE เฉลี่ยของกลุ่มเครื่องดื่มทั้ง 6 บริษัท ทั้งนี้ เชื่อว่าบริษัทจะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ มองว่าบริษัทมี D/E สิ้นปี 59 อยู่ที่ 0.24 เท่า และเลือกเป็น Top Pick ในกลุ่มเครื่องดื่ม

ขณะที่ ราคาหุ้น TACC ปิดตลาดวานนี้ (3 ก.พ.) อยู่ที่ 6.55 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 2.34% มูลค่าการซื้อขาย 36.29 ล้านบาท

 

อันดับสาม บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI ผู้ดำเนินธุรกิจออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง อุปกรณ์ควบคุมที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหลอดไฟ และโคมไฟ ให้แก่ลูกค้า โดยเน้นการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบัลลาสต์ครอบคลุมถึง บัลลาสต์ไฟบ้านและบัลลาสต์ไฟถนน

นายธีระชัย ประสิทธิ์รัตนพร กรรมการผู้จัดการ TMI เผยว่า บริษัทฯตั้งเป้าผลประกอบการในปี 59 จะสามารถพลิกกลับมามีกำไร ขณะที่ตั้งเป้ารายได้เติบโตที่ 20% จากปีก่อน โดยบริษัทฯมีแผนรุกตลาดหลอดไฟ LED สำหรับผู้บริโภค หรือ Consumer Market เพิ่มมากขึ้นตามความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาใช้หลอดไฟ LED ในบ้านมากขึ้น เนื่องจากมีอายุการใช้งานที่ทนทาน ประสิทธิภาพสูง และประหยัดไฟ

ขณะที่ ราคาหุ้น TMI ปิดตลาดวานนี้ (3 ก.พ.) อยู่ที่ 1.10 บาท ลบ 0.2 บาท หรือ 1.79% มูลค่าการซื้อขาย 3.51 ล้านบาท

 

อันดับสี่ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคที่ไม่รวมอาหารสดภายใต้ชื่อ “ธนพิริยะ” ซึ่งทุกสาขามีที่ตั้งในจังหวัดเชียงราย

ขณะที่ ราคาหุ้น TNP ปิดตลาดวานนี้ (3 ก.พ.) อยู่ที่ 1.53 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 6.73 ล้านบาท

 

อันดับห้า บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อแก่กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่มีข้อจำกัดในการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน

ขณะที่ ราคาหุ้น LIT ปิดตลาดวานนี้ (3 ก.พ.) อยู่ที่ 9.15 บาท ลบ 0.05 บาท หรือ 0.54% มูลค่าการซื้อขาย 92.54 ล้านบาท

 

อันดับหก บริษัท ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMC ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรระบบไฮดรอลิคหลากหลายประเภท ได้แก่ เครื่องเพรส เครน และเครื่องทุ่นแรง ภายใต้ตราสินค้า “TMC” รวมถึงการให้บริการซ่อมแซมดูแลรักษาเครื่องจักรและรับแปรรูปโลหะ

ขณะที่ ราคาหุ้น TMC ปิดตลาดวานนี้ (3 ก.พ.) อยู่ที่ 2.06 บาท ลบ 0.02 บาท หรือ 0.96% มูลค่าการซื้อขาย 1.17 ล้านบาท

 

อันดับเจ็ด บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ผู้ดำเนินธุรกิจเกียรติธนาขนส่ง เป็นผู้นำด้านการบริการขนส่งวัสดุอันตราย ปิโตรเคมี และผลิตภัณฑ์พิเศษอื่น ๆ ด้วยความสามารถเฉพาะทาง และความเป็นมาตรฐานสูงสุดเพื่อให้มั่นใจว่า

ขณะที่ ราคาหุ้น KIAT ปิดตลาดวานนี้ (3 ก.พ.) อยู่ที่ 0.73 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 2.82% มูลค่าการซื้อขาย 6.68 ล้านบาท

 

อันดับแปด บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO ผู้ดำเนินธุรกิจบริษัทดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ มอเตอร์กำลังสำหรับอุตสาหกรรม และเครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง และมอเตอร์สำหรับสระและสปา โดยแบ่งเป็นการผลิตตามคำสั่งจ้างผลิต (OEM) และ การผลิตและจำหน่ายภายใต้ตราสินค้า Pioneer Motor ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทเอง

ขณะที่ ราคาหุ้น PIMO ปิดตลาดวานนี้ (3 ก.พ.) อยู่ที่ 2.08 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 0.97% มูลค่าการซื้อขาย 23.16 ล้านบาท

 

อันดับเก้า บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า QTC และเครื่องหมายการค้าของลูกค้า รวมทั้งการให้บริการเกี่ยวกับหม้อแปลงไฟฟ้า

ขณะที่ ราคาหุ้น QTC ปิดตลาดวานนี้ (3 ก.พ.) อยู่ที่ 5.60 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 1.82% มูลค่าการซื้อขาย 3.50 ล้านบาท

 

อันดับสุดท้าย บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ SALEE ผู้ดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วนพลาสติกโดยกระบวนการขึ้นรูปพลาสติกและฉีดพลาสติก ซึ่งมีบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจพิมพ์ฉลากสินค้าคุณภาพสูงและธุรกิจผลิตแม่พิมพ์ฉีดและขึ้นรูปพลาสติก

ขณะที่ ราคาหุ้น SALEE ปิดตลาดวานนี้ (3 ก.พ.) อยู่ที่ 0.97 บาท ลบ 0.01 บาท หรือ 1.02% มูลค่าการซื้อขาย 1.78 ล้านบาท

Back to top button