PLAT อนาคตสดใส โบรกฯมอง Q4 โตต่อเนื่องจับตา “Bangkok Skyline” โกยรายได้ทะลัก!

PLAT อนาคตสดใส โบรกฯฟัน Q4 โตต่อเนื่อง จับตา "Bangkok Skyline" โกยรายได้ทะลัก!


บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT ถือเป็นหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยบริษัทจะเน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าและธุรกิจโรงแรม ประกอบด้วย

1.โครงการศูนย์แฟชั่นค้าส่ง เดอะ แพลทินัม แฟชั่นมอลล์ (The Platinum Fashion Mall) ซึ่งบริษัทฯเป็นเจ้าของพื้นที่ชั้น 3-6 และชั้น 11 รวมถึงพื้นที่จอดรถบางส่วน 2.โครงการเดอะ วอร์ฟ สมุย (The Wharf Samui) ซึ่งบริษัทฯเช่าบริหารโครงการเป็นระยะเวลานาน 10 ปี (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558-31 ธันวาคม 2567) จากบริษัทที่เกี่ยวข้อง 3.โรงแรม โนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ

จากรูปแบบการทำงานทำให้ธุรกิจ PLAT เดินหน้าพัฒนาธุรกิจและโครงการต่างๆ ในอนาคตให้เป็นไปตามแผน เช่น โครงการ The Market ที่คาดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/61 และโครงการ Bangkok Skyline คาดเสร็จในไตรมาส 1/60 ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการทั้งหมด 4-5 หมื่นคน/วัน ซึ่งมีคนเข้ามาในศูนย์การค้าประมาณ 10-12% ของผู้ใช้บริการ

ขณะที่โครงการตลาดนัดกลางคืน หรือ ตลาดนีออน ก็ได้รับการตอบรับที่ดี และมีแผนจะขยายเวลาเปิดขายจาก 4 วัน/สัปดาห์ เป็น 5 วัน/สัปดาห์ ในปีหน้า ซึ่งน่าจะส่งผลทำให้อัตราค่าเช่าพื้นที่ปรับตัวดีขึ้น และส่งผลดีต่อรายได้ที่จะเข้ามาในอนาคต โดยคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59 ยังเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ผลกำไรในปีหน้าอาจจะยังไม่สดใสมากนัก หลังจะนำเงินสดไปใช้ในการลงทุนโครงการต่างๆ ตามแผน ก่อนที่จะกลับมาขยายตัวโดดเด่นได้ในปี 61 หลังเปิดโครงการ The Market

แน่นอนด้วยแผนงาน PLAT ที่ออกมาบวกกับผลกำไรที่ออกมาอย่างโดดเด่นนับตั้งแต่เข้าตลาด หุ้นรายนี้น่าจะเป็นอีกตัวที่น่าลงทุนเพื่ออนาคต ที่สำคัญโบรกฯเกอร์ชั้นนำประสานเสียงซื้อและให้เป้าหมายสูงหุ้นรายนี้ก็น่าจะปรับตัวขึ้นได้อีกในอนาคต

 

 

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปรับประมาณการกำไรสุทธิของ PLAT ในปี 59 ขึ้น 5.77% มาที่ 695.64 ล้านบาท เนื่องจากผลการดำเนินงานของธุรกิจให้เช่าและธุรกิจโรงแรมในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาดีขึ้นจากการดำเนินกลยุทธ์ต่าง ๆ โดยผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้คิดเป็น 75.2% ของประมาณการทั้งปี

ส่วนในปี 60 คาดว่ากำไรสุทธิของ PLAT อาจจะลดลงเล็กน้อย 2% เมื่อเทียบกับปีนี้ หรือมาอยู่ที่ 682 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยเงินฝากและการลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้าจะลดลง ตามแผนการนำเงินสดไปใช้ในการลงทุนโครงการต่างๆ แต่ธุรกิจให้เช่าและโรงแรมจะยังคงเติบโตดีต่อเนื่อง ตามการปรับขึ้นของอัตราค่าเช่าและอัตราห้องพัก รวมไปถึงการมีรายได้ส่วนเพิ่มจากการดำเนินการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่างๆ

ปัจจุบัน ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง โดยมีแผนเปิดให้บริการในปี 61 จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ The Market ส่วน Plaza ได้เปิดให้จองพื้นที่เช่าในช่วงไตรมาส 4/59 และมีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 61 ,โรงแรม Holiday Inn Express สมุย คาดเปิดได้ในไตรมาส 2/61 ,โรงแรม Holiday Inn Resort สมุย คาดเปิดให้บริการในไตรมาส 4/61 อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาต่อยอดโครงการ The Market เป็นอาคารสำนักงานอีก 2 อาคาร และโรงแรมอีก 1 แห่ง ในพื้นที่เดียวกัน โดยจะเปิดให้บริการและรับรู้รายได้ในปี 64

“PLAT ยังคงเป็นหุ้นที่น่าสนใจซึ่งมีรายได้จากธุรกิจให้เช่าและโรงแรมที่แข็งแกร่ง ประกอบกับฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้การลงทุนในโครงการต่าง ๆ สามารถทำได้โดยง่าย โดยทางฝ่ายคาดว่าจะได้เห็นการลงทุนที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นหลังจากไตรมาส 4/59 ที่บริษัทจะเปิดให้จองพื้นที่เช่าในโครงการ The Market ซึ่งคาดจะมีผลตอบรับที่ดี และผลการดำเนินงานจะเติบโตก้าวกระโดดในปี 61 หลังโครงการดังกล่าวเปิดให้บริการ

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดการณ์กำไรสุทธิของ PLAT ปี 59 น่าจะอยู่ที่ 673 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% จากปีก่อน จากการดำเนินกลยุทธ์ต่าง ๆ ของบริษัทในการเพิ่มผลประกอบการซึ่งเห็นได้ชัดว่าสามารถทำได้อย่างดีมาก

ขณะที่ในปีหน้าคาดว่ากำไรสุทธิน่าจะเติบโตเล็กน้อย มาที่ 691 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.7% จากปีนี้ จากการปรับขึ้นค่าเช่าตามปกติของ Platinum Fashion Mall และค่าพักต่อคืนที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนโครงการต่าง ๆ ในอนาคตยังคงเป็นไปตามแผน เช่น โครงการ The Market ได้ดำเนินการสร้างฐานล่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คาดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/61 รวมทั้งโครงการ Bangkok Skyline คาดเสร็จในไตรมาส 1/60 ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการทั้งหมด 4-5 หมื่นคน/วัน และมีคนเข้ามาในศูนย์การค้าประมาณ 10-12% ของผู้ใช้บริการ

สำหรับโครงการตลาดนัดกลางคืน หรือตลาดนีออน มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 10 ไร่ และพื้นที่ให้เช่าอีก 5,626 ตารางเมตร ร้านทั้งหมด 901 ร้าน โดยประกอบด้วย Tent, Truck และ Container และค่าเช่าจะแยกเป็น Tent 300-350 บาท/วัน, Truck 1,000 บาท/วัน, Container 2,000-3,000 บาท/วัน ซึ่งได้เปิดให้บริการในเดือน ธ.ค.นี้ โดยประมาณการรายได้ในโครงการจะอยู่ราว 70 ล้านบาท/ปี อัตราเช่าพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 70-80% การตอบรับในการเข้าเช่าพื้นที่ค่อนข้างดี 

 

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปรับราคาเป้าหมายสำหรับหุ้น PLAT เป็น 8.50 บาท/หุ้น และปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 59 เพิ่มขึ้น 4-8% เพื่อสะท้อนอัตรากำไรที่สูงขึ้น จากการควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น อีกทั้งมีรายได้เพิ่มเติมจากโครงการตลาดนัดกลางคืน และโครงการ The Market มีความคืบหน้าตามแผน จะหนุนให้กำไรสุทธิในปี 61 เติบโตได้ 17% และในปี 62 เติบโตได้ 46%

พร้อมกันนี้โครงการตลาดนัดกลางคืน หรือตลาดนีออน ได้เปิดให้บริการเมื่อต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับดีโดยจะขยายเวลาเปิดขายจาก 4 วัน/สัปดาห์ เป็น 5 วัน/สัปดาห์ ตั้งแต่ต้นปีหน้า ขณะที่มีอัตราเช่าพื้นที่อยู่ที่ 90-95% คาดทำรายได้ราว 4-5 ล้านบาทในปีนี้ และเพิ่มเป็น 80 ล้านบาทในปี 60

ส่วนความคืบหน้าโครงการใหม่ยังคงดำเนินการไปตามแผน โดยการก่อสร้างโครงการ The Market มีความคืบหน้าไปตามแผน ซึ่งจะเปิดให้บริการในไตรมาส 4/61 และมีการกำหนด Floor concept 5 ชั้น แบ่งเป็น Hip Old Town (ร้านอาหารมีแบรนด์ / คาเฟ่ / ร้านอาหารจานด่วน) ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ตลาดอินดี้ (Casual street wear) โซนธนาคาร, IT, และ ร้านสุขภาพและความงาม  เป็นต้น โดยประเมินว่า เมื่อโครงการ The Market เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ จะทำให้กำไรสุทธิ ปี 61 เติบโต 17% และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเป็น 46% ในปี 62 ซึ่งเป็นปีที่ PLAT มีการรับรู้รายได้เต็มปี

อีกทั้ง Bangkok Skyline จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการในศูนย์การค้า (Traffic) โดย Bangkok Skyline เฟส 1 เชื่อมระหว่างโครงการ เดอะ แพลทินัมฯ ถึงสะพานลอยหน้าบิ๊กซีราชดำริ ปัจจุบันมี Traffic 4-5 หมื่นคน/วัน ซึ่งมี Traffic เข้าโครงการ เดอะแพลทินัมฯ ราว 10% ส่วน Bangkok Skyline เฟส 2 จากสะพานลอยฯ ไปถึง อาคารสำนักงานเกษตรฯ และสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต คาดจะเสร็จในเดือน ก.พ.60 ซึ่งคาดจะช่วยเพิ่ม Traffic ให้โครงการเดอะแพลทินัมฯ และรองรับกับการเปิดโครงการ The Market

ด้านผลประกอบการไตรมาส 4/59 คาดว่าจะดีต่อเนื่อง โดยกำไรสุทธิจะเติบโตจากการรับรู้รายได้ จากตลาดนีออน การต่อสัญญาและปรับขึ้นค่าเช่าในโครงการ เดอะ แพลทินัมฯ ในเดือน พ.ย.59 คาดว่าจะทำให้ ค่าเช่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น  4-5% ขณะที่รายได้จากการขายอาหารมีแนวโน้มจะได้รับผลบวกจากจำนวนลูกค้าเข้าโครงการฯ เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาล และการที่ความต้องการซื้อเสื้อผ้าสีดำเพิ่มขึ้น ขณะที่รายได้จากการให้เช่าพื้นที่ส่วนกลางสำหรับจัดกิจกรรม และการให้เช่าพื้นที่ป้ายโฆษณาในโครงการคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

Back to top button