7 หุ้นหวานฉ่ำ สวีทรับวาเลนไทน์
เปิดรายชื่อ 7 หุ้น รับอานิสงส์เทศกาลวาเลนไทน์ คาดเงินสะพัดกว่า 3.67 พันล้าน
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นประเด็นธุรกิจ ต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ พบว่าคนส่วนใหญ่ร้อยละ 42.9 เห็นว่าวันวาเลนไทน์ปีนี้ (2559) มีความคึกคักมากกว่าปีก่อน เนื่องจากคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น ขณะที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากขึ้น มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อย่างไรก็ตามร้อยละ 33.8 มองว่า บรรยากาศคึกคักน้อยลง เนื่องจากราคาสินค้าแพงขึ้น และกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย
ขณะที่เงินสะพัดในช่วงวันวาเลนไทน์ปีนี้อยู่ที่ 3,675 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.61 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายคนละ 2,258 บาท จากการซื้อของขวัญ ดอกไม้ ทานข้าวนอกบ้าน เดินห้าง ดูหนัง ซื้อช็อกโกแลต การ์ด และตุ๊กตา โดยใช้เงินจากเงินเดือนมากที่สุด รองลงมาเป็นเงินออม โดยมีความคาดหวังว่าจะได้รับดอกไม้ในวันวาเลนไทน์มากที่สุด รองลงมาเป็นการได้รับของขวัญ และการบอกรัก
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทั้ง SET และ mai ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลวาเลนไทน์ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 14 ก.พ.นี้ เนื่องจากในเทศกาลดังกล่าวประชาชนจะพาครอบครัว หรือคนรักไปท่องเที่ยวพักผ่อนสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อจับจ่ายใช้สอย เช่น การรับประทานอาหาร การชมภาพยนตร์ สำหรับหุ้นที่มีแนวโน้มได้ประโยชน์จากเทศกาลวาเลนไทน์แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจดังตารางด้านล่าง
กลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มได้ประโยชน์จากเทศกาลวาเลนไทน์
เริ่มต้นที่ ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรม หรือศูนย์การค้า อย่าง บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ,บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ,บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และบริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น (บจ.) ดังกล่าวจะได้รับอานิสงส์เทศกาลวาเลนไทน์จากการที่ประชาชนไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด เพื่อพักผ่อน
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 8-14 ก.พ.ที่ผ่านมา เป็นเทศกาลตรุษจีน จึงคาดว่านักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งยังคงมีวันหยุดยาวจะยังท่องเที่ยวอยู่ในประเทศอีกด้วย
อันดับที่ 2 ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M และ บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) หรือ HOTPOT ซึ่งจะได้รับประโยชน์คล้ายกับกลุ่มโรงแรม เนื่องจากในเทศกาลวาเลนไทน์ประชาชนจะพาคู่รัก หรือครอบครัวมารับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น
อันดับที่ 3 ผู้ดำเนินธุรกิจโรงภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ธุรกิจโบว์ลิ่งและคาราโอเกะ ธุรกิจลานสเก็ตน้ำแข็ง ธุรกิจพื้นที่เช่าและศูนย์การค้า ธุรกิจการสร้างและการจัดจำหน่ายภาพยนตร์ และธุรกิจบริการสื่อโฆษณา ได้รับอานิสงส์จากการที่คู่รัก และครอบครัวออกมาใช้เวลาพักผ่อนด้วยการดูภาพยนต์ และหากิจกรรมทำร่วมกัน
อันดับที่ 4 ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับเพชรและเพชรกะรัต บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE โดยในช่วงวาเลนไทน์จะเป็นช่วงที่คู่รักส่วนใหญ่จะมอบของขวัญแก่กัน โดยเฉพาะเครื่องประดับ ซึ่งที่ผ่านมา JUBILE ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่บริษัทคาดรายได้ไตรมาส 1/59 จะเติบโตราว 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับแผนการดำเนินงานปีนี้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปี 58 คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท
อันดับที่ 5 ผู้ดำเนินธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC โดยแยกเป็น 2 กลุ่มหลักคือ ธุรกิจบัตรเครดิต ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบัตรเครดิต และธุรกิจสินเชื่อบุคคล ซึ่งคาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลวาเลนไทน์เนื่องจากประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้น จากการให้ของขวัญแก่คู่รัก หรือครอบครัว ขณะที่บริษัทจะมีการจัดโปรโมชั่นผ่านบัตรเครดิตเพื่อกระตุ้นยอดขายในเทศกาลต่างๆ มากขึ้นอีกด้วย
*อนึ่ง ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน