สแกน 7 หุ้นการเงิน-ไฟแนนช์ P/E-P/BV ต่ำ ยีลด์สูง!
ในช่วงภาวะที่ตลาดหุ้นไทยผันผวนสิ่งหนึ่งที่ตอบโจทย์ และเป็นทางเลือกให้รู้ว่าหุ้นตัวไหนดี กลุ่มไหนเด็ด และให้ผลตอบแทนสูงน่าจะเป็นคำตอบที่ถูกใจนักลงทุน จากสถานการณ์ดังกล่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงินมานำเสนอ เนื่องจากมองว่าหุ้นกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ดีในอนาคต
ในช่วงภาวะที่ตลาดหุ้นไทยผันผวนสิ่งหนึ่งที่ตอบโจทย์ และเป็นทางเลือกให้รู้ว่าหุ้นตัวไหนดี กลุ่มไหนเด็ด และให้ผลตอบแทนสูงน่าจะเป็นคำตอบที่ถูกใจนักลงทุน จากสถานการณ์ดังกล่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงินมานำเสนอ เนื่องจากมองว่าหุ้นกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้ดีในอนาคต
อีกทั้งหุ้นในกลุ่มนี้มีแรงหนุนอยู่ 2 ปัจจัยสำคัญที่น่าจะทำให้หุ้นปรับตัวขึ้นได้นั้นก็คือ 1) แรงหนุนของมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ต่อเนื่องมาจากช่วงปลายปี 2558 จนถึงเดือนเมษายน 59 ซึ่งช่วยเร่งการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของครัวเรือน อันเชื่อมโยงมาสู่การเติบโตของสินเชื่อที่อยู่อาศัย และ 2) การเบิกใช้ซอฟท์โลนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่เม็ดเงินส่วนหนึ่งจะทยอยเบิกใช้ในช่วงไตรมาส 1/59 ซึ่งในที่สุดแล้วเชื่อว่าจะช่วยหนุนการเติบโตของสินเชื่อในไตรมาส 1/59 ได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นในครั้งนี้มี 3 ข้อด้วยกันคือ 1) อัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) 2) อัตราส่วนราคาปิดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (P/BV) ที่ต่ำกว่าตลาดฯ และ 3) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ที่สูงกว่าตลาดฯ โดยเทียบข้อมูล SET ณ วันที่ 15 ก.พ.59 ที่มีค่าเฉลี่ยP/E อยู่ที่ 21.91, P/BV อยู่ที่ 1.73 เท่า และ Yield อยู่ที่ 3.37% ตามลำดับ
จากหลักเกณฑ์ข้างต้นพบว่ามีหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงินเข้ามาติด 7 ตัวด้วยกันจากการคัดเลือกหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมธุรกิจการเงินใน SET ทั้งหมด 59 ตัว ตามตารางด้านล่าง
ตารางประกอบข่าว: ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รวบรวมข้อมูล
โดยอันดับ 1 คือ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ถือเป็น Holding company โดยเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนชาตที่ประกอบธุรกิจทางการเงินครบวงจร ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม 1) กลุ่มธุรกิจการเงิน ประกอบด้วย ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจประกัน ธุรกิจลีสซิ่ง และ 2) ธุรกิจสนับสนุน ประกอบด้วย ธุรกิจโบรกเกอร์ ธุรกิจบริการ ธุรกิจกฎหมายและประเมินราคา ธุรกิจการพัฒนาฝึกอบรม โดยหุ้นมีค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 7.98 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ 0.84 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.45%
อันดับ 2 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ถือเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรแก่ธุรกิจทั้งขนาดใหญ่ SME ตลอดจนฐานลูกค้าบุคคล โดยมีสาขาในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และมีเครือข่ายในต่างประเทศครอบคลุมเขตเศรษฐกิจสำคัญของโลก โดยมีค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 8.15 ส่วน P/BV อยู่ที่ระดับ 0.81เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.32%
อันดับ 3 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เป็นธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ โดยมีสาขาอยู่ทั่วภูมิภาคในประเทศไทย และในบางภูมิภาคหลักของโลก โดยมีค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่8.18 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่1.02 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 5.17%
อันดับ 4 บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO เป็น Holding company ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินทิสโก้ โดยมีธนาคารทิสโก้เป็นหลัก ซึ่งได้รับอนุมัติให้เป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ ปัจจุบันให้บริการทางด้านการเงินอันประกอบด้วย บริการสินเชื่อลูกค้ารายย่อยและสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริการสินเชื่อพาณิชย์ธนกิจ บริการเงินฝากรายย่อย บริการลูกค้าธนบดีธนกิจ บริการตัวแทนขายประกันผ่านธนาคาร บริการจัดการการเงิน และบริการคัสโตเดียนโดยมีค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 8.4 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ระดับ1.33 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.49%
อันดับ 5 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ดำเนินธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่ให้บริการทางการเงินครบวงจรสำหรับลูกค้าทุก ประเภท เช่น รับฝากเงิน โอนเงิน ให้กู้ยืมประเภทต่างๆ บริการด้านปริวรรตเงินตรา Bancassurance บริการด้านการค้าต่างประเทศ Cash Management รวมถึงบริการด้านธุรกิจหลักทรัพย์ บริการจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนส่วนบุคคล บริการด้านบัตรเครดิตและการรับฝากทรัพย์สิน โดยมีค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 9.46 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ 1.55 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.53%
อันดับ 6 บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ASK ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทุกประเภทและสินเชื่อ ส่วนบุคคล สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ สินเชื่อแก่ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ บริการด้านประกันภัย บริการจด/โอนทะเบียนและต่อภาษีรถยนต์ บริษัทย่อยดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อลีสซิ่งและสินเชื่อเช่าซึ้อเครื่อง จักรและยานพาหนะ สินเชื่อแฟคตอริ่งภายในประเทศและระหว่างประเทศ และบริการด้านประกันภัย โดยค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่10.28 เท่า ส่วน P/BVอยู่ที่1.7 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 6.44%
อันดับ 7 ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) หรือ KKP อยู่ในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจตลาดทุน โดยธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ดำเนินการภายใต้ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) และธุรกิจตลาดทุน ดำเนินการภายใต้บริษัท ทุนภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคเคเทรด จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ภัทร จำกัดโดยค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 11.92 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ 0.91ท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.63%
อนึ่ง ค่าเฉลี่ย P/E เป็นตัวบอกมูลค่าของหุ้น ซึ่งหุ้นที่มี P/E ต่ำ นั้นคือหุ้นที่ยังมีราคาต่ำอยู่มาก เมื่อเทียบกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ส่วนหุ้นที่มี P/E สูง คือหุ้นที่มีราคาสูงเกินไป เมื่อเทียบกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ผู้ลงทุนจึงมีความเสี่ยงสูงกว่าในการลงทุนในหุ้นที่มีค่า P/E สูง
ขณะเดียวกัน P/BV หมายถึงอัตราส่วนระหว่างราคาหุ้น (P) กับมูลค่าทางบัญชีของกิจการ (BV) ซึ่ง BV หรือ Book Value ทั้งนี้หุ้น P/BV ยิ่งต่ำจะยิ่งน่าสนใจ โดยตัวเลขมาตรฐานที่มักจะใช้เป็นฐานก็คือ 1 เท่า หากสามารถซื้อหุ้นที่มีค่า P/BV น้อยกว่า 1 ได้ก็หมายความว่านักลงทุนสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีของ บริษัท
ส่วน Dividend Yield เป็นค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนปันผล ซึ่งคำนวณจากการจ่ายเงินปันผลในอดีตในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถรับรองได้ว่าการจ่ายเงินปันผลจะเหมือนเดิมในอนาคต
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่า นั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน