เจอแล้ว! 9 หุ้นฟอร์มเทพ
หากติดตามข่าวสารตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญหลายๆตัว จะเห็นว่าปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ ล่าสุดตัวเลขดัชนีความความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ม.ค.59 ที่ออกมาก็ไม่สดใส่เช่นกัน เพราะตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 86.3 ซึ่งปรับตัวลดลงจากระดับ 87.5 ในเดือน ธ.ค.58 และยังเป็นการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน แน่นอนค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯที่ลดลงส่วนใหญ่เกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม,ยอดขายโดยรวม,ปริมาณการผลิต และผลประกอบการที่ลดลง
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจและคัดเลือกหุ้นในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมมานำเสนอ เพื่อให้นักลงทุนที่ชื่นชอบหุ้นกลุ่มนี้ไม่ถอดใจกับภาวะเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที้่ชะลอตัว อีกทั้งไม่อยากให้พลาดโอกาสเก็บหุ้นพื้นฐานดีๆ และมีผลตอบแทนสูง
เกณฑ์การคัดเลือกหุ้นในครั้งนี้มี 3 ข้อด้วยกันคือ 1) อัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) 2) อัตราส่วนราคาปิดต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (P/BV) ที่ต่ำกว่าตลาดฯ และ 3) อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ที่สูงกว่าตลาดฯ โดยเทียบข้อมูล SET ณ วันที่ 15 ก.พ.59 ที่มีค่าเฉลี่ยP/E อยู่ที่ 21.91, P/BV อยู่ที่ 1.73 เท่า และ Yield อยู่ที่ 3.37% ตามลำดับ
โดยเป็นการคัดเลือกจากหุ้นในกลุ่มทั้งหมด 86 ตัว ซึ่งประกอบไปด้วยหมวดธุรกิจ 6 หมวด อาทิ หมวดบรรจุภัณฑ์, หมวดเหล็ก, หมวดยานยนต์, หมวดกระดาษ-วัสดุการพิมพ์, หมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร, และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
ทั้งนี้จากเกณฑ์ข้างต้นมีหุ้นที่เข้ามาติด 9 ตัวด้วยกัน และเป็นที่น่าสังเกตว่าหุ้นในหมวดยานยนต์เข้ามาติดมากถึง 5 ตัว อาทิ SAT, EASON, PCSGH, TRU และ TKT ส่วนที่เหลืออีก 4 ตัว เป็นหุ้นในหมวดบรรจุภัณฑ์,หมวดกระดาษและวัสดุการพิมพ์,หมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร และหมวดปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ประกอบด้วย SITHAI,UP,KKC และ PTTGC และหากสังเกตอีกด้านจะเห็นว่า SAT มีค่า P/E ต่่ำสุด ส่วนหุ้น TRU มีค่า P/BV ต่ำสุด ส่วน KKC ยีลด์สูงสุด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหุ้นทั้ง 9 ตัว จะเป็นหุ้นที่น่าลงทุนในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมในเวลานี้อย่างแน่นอน
โดยอันดับ 1 คือ บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นกลุ่ม รถยนต์นั่ง รถกระบะ รถบรรทุกและอุตสาหกรรมเครื่องยนต์การเกษตร โดยกลุ่มลูกค้าหลักได้แก่ผู้ประกอบยานยนต์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศซึ่งมีการทำสัญญาซื้อขายระยะยาว และผู้ค้าชิ้นส่วนอะไหล่โดยหุ้นมีค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 9.94 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ 1.2 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 3.95%
อันดับ 2 บริษัท อีซึ่น เพ้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ EASON ผลิตและจำหน่ายสีอุตสาหกรรม ได้แก่ สีพ่นรถจักรยานยนต์ สีพ่นพลาสติก สีเคลือบบรรจุภัณฑ์ และหมึกพิมพ์ออฟเซท ในแบบการผลิต และจำหน่ายสี บริษัทจะผลิตสีตาม Know-How ซื้อจากเจ้าของลิขสิทธิ์ นอกจากนี้บริษัทยังผลิตสีตาม Know-How ที่บริษัทวิจัยพัฒนาขึ้นเอง จากประสบการณ์ และจำหน่ายสีให้กับลูกค้าผู้ใช้สีโดยตรง ภายใต้ตราสินค้าของตนเอง โดยมีค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 12.20 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ระดับ 1.41 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 3.82%
อันดับ 3 บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SITHAI กลุ่มบริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกเพื่องานอุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนที่ทำจากเมลามีน สายธุรกิจซื้อมาขายไปและสายงานแม่พิมพ์เป็นธุรกิจธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ โดยมีสาขาอยู่ทั่วภูมิภาคในประเทศไทย และในบางภูมิภาคหลักของโลก โดยมีค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 12.59 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ 1.26 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.63%
อันดับ 4 บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCSGH บริษัทประกอบธุรกิจการลงทุนในบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนยานยนต์โดยมีค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 13.64 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ระดับ 1.6 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 7.42%
อันดับ 5 บริษัท ยูไนเต็ด เปเปอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ UTP ผลิตและจำหน่ายกระดาษคราฟท์ซึ่งใช้สำหรับอุตสาหกรรมหีบห่อและบรรจุภัณฑ์ ประเภทกล่องลูกฟูกและกระดาษทำผิวกล่องโดยมีค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 13.76 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ 1.13 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 6.02%
อันดับ 6 บริษัท ไทยรุ่งยูเนียนคาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRU ออกแบบวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างแม่พิมพ์และอุปกรณ์จับยึดสำหรับการผลิต ผลิตชิ้นส่วนโลหะและพลาสติก และผลิตเบาะรถยนต์ รับจ้างพ่นสี รับจ้างประกอบและดัดแปลงรถยนต์ต่าง ๆ โดยค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 16.04 เท่า ส่วน P/BVอยู่ที่ 0.74 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 3.85%
อันดับ 7 บริษัท กุลธรเคอร์บี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KKC ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์คอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบ (Reciprocating Compressor) สำหรับใช้กับตู้เย็น ตู้แช่ ตู้ทำน้ำเย็น ตู้เย็นเชิงพาณิชย์และเครื่องปรับอากาศ และผลิตCondensing unit เพื่อใช้กับ Commercial Refrigeration รวมทั้งผลิตชิ้นส่วนมอเตอร์คอมเพรสเซอร์และชิ้นส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าให้กับผู้ผลิตรายอื่นๆด้วยโดยค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 19.58 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ 1.67 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 11.02%
อันดับ 8 บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TKT ผลิตชิ้นส่วนพลาสติกและธุรกิจเกี่ยวกับแม่พิมพ์เพื่อการผลิตชิ้นส่วนพลาสติก โดยค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 19.81 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ 1 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.63%
อันดับ 9 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTT Global Chemical Public Company Limited) เกิดจากการควบบริษัทระหว่าง บริษัท ปตท. เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTCH) และ บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) (PTTAR) โดยได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2554 เพื่อก้าวขึ้นเป็นแกนนำของธุรกิจเคมีภัณฑ์ (Chemical Flagship) ของกลุ่ม ปตท.โดยค่า P/E ณ วันที่ 15 ก.พ.59 อยู่ที่ 21.73 เท่า ส่วน P/BV อยู่ที่ 1.03 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4.52%
อนึ่ง ค่าเฉลี่ย P/E เป็นตัวบอกมูลค่าของหุ้น ซึ่งหุ้นที่มี P/E ต่ำ นั้นคือหุ้นที่ยังมีราคาต่ำอยู่มาก เมื่อเทียบกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ส่วนหุ้นที่มี P/E สูง คือหุ้นที่มีราคาสูงเกินไป เมื่อเทียบกับความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ผู้ลงทุนจึงมีความเสี่ยงสูงกว่าในการลงทุนในหุ้นที่มีค่า P/E สูง
ขณะเดียวกัน P/BV หมายถึงอัตราส่วนระหว่างราคาหุ้น (P) กับมูลค่าทางบัญชีของกิจการ (BV) ซึ่ง BV หรือ Book Value ทั้งนี้หุ้น P/BV ยิ่งต่ำจะยิ่งน่าสนใจ โดยตัวเลขมาตรฐานที่มักจะใช้เป็นฐานก็คือ 1 เท่า หากสามารถซื้อหุ้นที่มีค่า P/BV น้อยกว่า 1 ได้ก็หมายความว่านักลงทุนสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีของ บริษัท
ส่วน Dividend Yield เป็นค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนปันผล ซึ่งคำนวณจากการจ่ายเงินปันผลในอดีตในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ไม่สามารถรับรองได้ว่าการจ่ายเงินปันผลจะเหมือนเดิมในอนาคต
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่า นั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน