“สุมาลี อ่องจริต”พี่ไม่ได้มา AQUA เล่นๆ

ทันทีที่ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA ป่าวประกาศผ่านที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติแต่งตั้ง “นางสุมาลี อ่องจริต” เข้ามาดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทน “นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล”โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.59 เป็นต้นไป ก็ทำให้ใครหลายคนวาดฝันโปรเจ็คใหญ่โตที่จะตามหลังมามากมายหลายอย่างด้วยกัน

เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้หญิงคนนี้เก่งรอบด้าน สามารถพลิกฟื้นบริษัทหลายแห่งให้กลับมาทำกำไรอย่างแข็งแกร่ง และยังเป็นคนป้อนงานดีๆ เข้าบริษัทที่ตัวเองเข้าไปบริหารด้วยเป็นประจำ จนทำให้ชื่อของผู้หญิงคนนี้เป็นเครื่องหมายการันตรีคุณภาพไปในตัว

โดยหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ ในช่วงที่เธอกลายเป็น “นารีขี่ม้าขาวกู้วิกฤติพา WIIK พลิกมีกำไร” ซึ่งเป็นช่วงท้าทายความสามารถของเธอสุดๆ เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า บริษัทแห่งนี้มีผลขาดทุนเรื้อรังมานานเป็นเวลาหลายปีจึงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ที่มีนิสัยเฮฮา แถมเจอเธอครั้งใดต้องมีรอยยิ้มบนใบหน้าให้เห็นเสมอ ไม่ว่าช่วงนั้นจะมีเรื่องเครียดขนาดไหน

 

เมื่อทีมงานเว็บไซต์ “ข่าวหุ้น” ได้มีโอกาสพบเธอเป็นทางการ จึงให้เธอย้อนเรื่องราวในช่วงที่เข้าไปลงทุนใน บริษัทวิค แอนด์ ฮุคลันด์ จำกัด (มหาชน) หรือWIIK ซึ่งเธอก็ยินเล่าให้ฟังทุกอย่าง พร้อมกับบรรยายว่า ในช่วงที่มีการปรับโครงสร้างบริษัทเมื่อต้นปี 58  กลุ่มของเธอได้ร่วมกันเข้ามาถือหุ้นเพื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 65.99%

“พร้อมกันนั้นก็มีการพูดคุยถึงแผนธุรกิจที่จะผลักดันให้ผลประกอบการที่ประสบผลขาดทุนสุทธิอย่างต่อเนื่องพลิกกลับมามีกำไรสุทธิเสียทีซึ่งรูปแบบของการทำธุรกิจในคราวนี้มองไปที่การเปลี่ยนแปลงธุรกิจหรือนำธุรกิจอื่นเข้ามาสวมแทน”

โดยการเข้ามาถือหุ้นใหญ่ในครั้งนี้เกิดจาก UPONOR INFRA OY ได้จำหน่ายหุ้น เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2558 จำนวนทั้งสิ้น 65.99% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการซึ่งกลุ่มคนที่เข้ามารับซื้อหุ้นต่ออีกทอดหนึ่งคือกลุ่มของ นางสุมาลีอ่องจริต ซึ่งประกอบด้วย นายชงก์ รังสิพราหมณกุล นายชัย ชีวมงคล  และบริษัท เยาววงศ์ โฮลดิ้ง จำกัด รวมทั้งหมด 4 ราย คิดเป็นจำนวนหุ้นรวมกัน 197,928,800 หุ้น หรือคิดเป็น 65.99%

สิ่งที่น่าสนใจถัดมาก็คือ เธอสามารถทำให้ WIIK กลายเป็นบริษัทที่ทำกำไรในปี 58 ได้มากถึง 83.31 ล้านบาท หรือ 0.28 บาทต่อหุ้น เมื่อเทียบกับปี 57 มีผลขาดทุน 6.27 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น ย่อมเป็นเครื่องหมายการรันตรีคุณภาพได้อย่างดี เพราะมันคือผลงานที่เพิ่งเกิดขึ้นแบบสดๆ ร้อนๆ นั่นเอง

ถึงกระนั้นสิ่งที่สังคมชาวหุ้นให้ความสนใจมากสุดอีกเรื่องก็คือ เธอนั่งเป็นกรรมการใน บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือEPCOซึ่งเป็นบริษัทหันมาลุยพลังงานทดแทนเต็มตัว จนผลกำไรปี 58 ทะยานขึ้นมาอยู่ที่ 247.18 ล้านบาท หรือ 0.34 บาทต่อหุ้น ขณะที่กำไรในปี 57  อยู่ที่ระดับ 221.72 ล้านบาท หรือ 0.35 บาทต่อหุ้น ส่วนกำไรปี 56 อยู่ที่ระดับ 130.59 ล้านบาท หรือ 0.25 บาทต่อหุ้น

 

ประเด็นที่ “สุมาลี” ต้องเกริ่นนำค่อนข้างยาวเป็นเพราะต้องการให้ทุกคนเห็นว่า “พี่ไม่ได้มาเล่นๆ” และการเข้ามาในนั่ง AQUA ย่อมมีแผนที่จะทำให้บริษัทแห่งนี้ GROWTH เป็นเท่าตัวอย่างแน่นอน เพราะสิ่งที่ทุกคนรู้อยู่ในตอนนี้ก็คือ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นใหญ่ทางตรงใน EPCO  จำนวน 282.68 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 38.40%

ในขณะที่ EPCO ถือหุ้นทางตรงใน บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จากัด (มหาชน) หรือ EP จำนวน 100% และมีแผนที่จะนำบริษัทนี้เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นภายในปี 59 ซึ่งเท่ากับว่า วันนี้เธอมีสินทรัพย์ที่อยู่ในรูปเงินลงทุนเป็นจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว เพราะถ้าคิดเป็นเม็ดเงินที่อยู่ในรูปหุ้นก็ปาเข้าไป 1,500 ล้านบาท บวกกับการรับรู้กำไรจาการขายหุ้น EP ในทางอ้อมอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

“กำไรของ AQUA ก็จะวิ่งขึ้นไปถึงระดับ 2,500 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำ และเมื่อนำเอาจำนวนหุ้นที่มีอยู่ 4,593 ล้านบาทมาหาร เพื่อคิดกำไรต่อหุ้น ก็ได้ตัวเลขออกมาอยู่ที่ระดับ 0.54 บาทต่อหุ้น”สุมาลี ย้ำว่าเรื่องนี้จะทำเมื่อไหร่ก็ได้

พร้อมกับบอกให้ทีมงานไปคิดกันเอาเองว่า ตัวเลขดังกล่าวสื่อให้เห็นอะไร และถ้าเป็นคนในวงการหุ้นก็คงจะเห็นว่า AQUA ไม่ธรรมดาจริงๆ

นอกจากนี้เธอยังพูดถึงวัตถุประสงค์หลักของการเข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการขยายธุรกิจในแนวดิ่ง และแนวระนาบ เพื่อทำให้ AQUA เติบโตอย่างยั่งยืน ประกอบกับเล็งเห็นศักยภาพของบริษัทแห่งนี้ จึงเชื่อว่า นับตั้งแต่กลางปี 59 จะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

วันนี้ “สุมาลี” บอกแค่เพียงว่า ทุกอย่างต้องรอเวลาที่เหมาะสม และเมื่อถึงเวลานั้น ทุกคนจะให้เคารพในตัวเรามากขึ้น เพราะเราทำจริง สำเร็จจริง!