เจ็บจี๊ด! 3 หุ้น mai ไตรมาส 4/58 พลิกขาดทุนอ่วม

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ไตรมาส 4/58 (งวดเดือน ต.ค.-ธ.ค.58) เทียบไตรมาส 3/58 (งวดเดือน ก.ค.-ก.ย.58) ทั้งตลาดฯจำนวน 122 บริษัท พบว่า มี 13 หลักทรัพย์ที่ต้องเจอกับแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ผันผวนอย่างรุนแรง ส่งผลให้บริษัทพลิกขาดทุนอย่างรวดเร็วในไตรมาสเดียว

ตารางแสดงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนตลาด mai ในไตรมาส 4/58

 

อันดับแรก บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) หรือ ARIP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 3.23 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.17 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายนิตยสารไอทีและคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ นิตยสารเชิงวิเคราะห์เศรษฐกิจ ธุรกิจการบริหารจัดการและการตลาด รวมถึงธุรกิจการจัดงานนิทรรศการ งานแสดงสินค้า และจัดประชุมสัมมนา เช่นจัดงานแสดงสินค้าไอทีในกรุงเทพมหานคร และธุรกิจสื่อดิจิตอลและสื่ออื่น 

อันดับสอง บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 37.63 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.65 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ และให้บริการข่าวสาร โฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อรูปแบบใหม่ โดยเป็นการ spin off มาจาก NMG

อันดับสาม บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 142.71 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.56 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาวให้แก่โรงรีดเหล็กภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำไปผลิตต่อด้วยการรีดเป็นผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาว ได้แก่ เหล็กเส้นกลม เหล็กข้ออ้อย และเหล็กลวด เป็นต้น โดยใช้เศษเหล็ก (Scrap) เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตเหล็กแท่งยาว และใช้เทคโนโลยีการหลอมเหล็กด้วยเตาหลอมเหล็กแบบเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้า (Electric Induction Furnace: EIF)

 

อันดับสี่ บริษัท ไฮโดรเท็ค จำกัด (มหาชน) หรือ HYDRO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 44.56 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.08 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้รับก่อสร้างและรับบริหารจัดการงานวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ได้แก่ 1. ระบบผลิตน้ำ ได้แก่ ระบบผลิตน้ำประปา ระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ หรือผลิตน้ำปราศจากแร่ธาตุ ระบบผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล ระบบผลิตน้ำแบบเคลื่อนย้าย 2. ระบบบำบัดน้ำเสีย ได้แก่ ระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อให้ได้มาตรฐาน 3. ระบบกำจัดขยะ และ 4. การแปรรูปวัสดุเหลือใช้ให้เป็นพลังงานทดแทน

อันดับห้า บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BROOK รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 46.46 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 18.68 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูลหรือคำปรึกษาด้านธุรกิจและการเงิน การลงทุน รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาอิสระให้แก่องค์กรชั้นนำของภาครัฐบาลและภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อันดับหก บริษัท โอเชี่ยน คอมเมิรช จำกัด (มหาชน) หรือ OCEAN รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 8.13 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.83 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้นำเข้า ประกอบและผลิตชิ้นส่วนเพื่อใช้ประกอบผลิตภัณฑ์ โดยจัดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ก๊อกน้ำและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับประปาและสุขภัณฑ์

อันดับเจ็ด บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 10.09 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 5.56 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเสาโครงเหล็กชุบสังกะสีประเภทเสาโครงเหล็กสายส่งไฟฟ้าแรงสูง เสาโครงเหล็กโทรคมนาคม เสาโครงเหล็กสถานีไฟฟ้าย่อย งานโครงเหล็กทั่วไป และการให้บริการชุบสังกะสี รวมถึงจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม โดยเป็นการ spin off มาจาก CEN

อันดับแปด บริษัท ซี.ไอ.กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CIG รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 1.17 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.70 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตคอยล์เย็น (Evaporator Coil) คอยล์ร้อน (Condenser Coil) และคอยล์น้ำเย็น (Chilled Water Coil) ซึ่งเป็นส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศเครื่องทำความเย็น และอุปกรณ์ถ่ายเทความร้อน/ความเย็นประเภทอื่นๆ เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อันดับเก้า บริษัท ยัวซ่าแบตเตอรี่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ YUASA รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 0.44 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.19 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์แบตเตอรี่รถยนต์ แบตเตอรี่จักรยานยนต์ เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออกไปตลาดต่างประเทศ ทั้งยังเป็นผู้นำเข้าแบตเตอรี่อุตสาหกรรม ซึ่งใช้เป็นแหล่งพลังงานสำรองในอุตสาหกรรมต่างๆ

อันดับสิบ บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) หรือ CHO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 4.36 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32.31 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้ออกแบบ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์เพื่อการพาณิชย์

อันดับสิบเอ็ด บริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 (รวมบริษัทย่อย) มีผลขาดทุนสุทธิ 15.06 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 149.21 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์เพื่อจำหน่ายและเพื่อให้เช่าพื้นที่ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ตลอดจนจำหน่ายที่อยู่อาศัย รวมไปถึงการให้บริการเช่าพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยปัจจุบันมีโครงการที่่อยู่ระหว่างดำเนินการ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสำเพ็ง 2 โครงการทิวลิป สแควร์ และโครงการไมอามี่่ บางปู

อันดับสิบสอง บริษัท ซังโกะ ไดคาซติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SANKO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 0.02 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 0.37 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอลูมิเนียมและสังกะสีในรูปแบบที่ลูกค้ากำหนดตามคำสั่งซื้อของลูกค้า โดยกระบวนการขึ้นรูปด้วยแม่พิมพ์ฉีดหล่อความดันสูง (High-Pressure Diecasting หรือ “HPDC”) โดยบริษัทมีการให้บริการออกแบบและว่าจ้างบริษัทผู้ผลิตแม่พิมพ์เพื่อทำการผลิตแม่พิมพ์ให้กับลูกค้าเพื่อให้สามารถผลิตชิ้นงานตามที่ลูกค้ากำหนด

อันดับสิบสาม บริษัท ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ T รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.58 มีผลขาดทุนสุทธิ 2.66 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 44.21 ล้านบาท โดยบริษัทเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโดยครอบคลุมโครงการก่อสร้าง ทั้งที่เป็นอาคารโรงงาน คลังสินค้า อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล ศูนย์การค้า อาคารที่พักอาศัย คอนโดมิเนียม รวมถึงงานระบบประกอบอาคาร งานสาธารณูปโภค และงานติดตั้งเครื่องจักรต่างๆ

 

*ทั้งนี้ ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้นเป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบ การตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำหรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจ ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตามล้วนเป็นผลจากการใช้ วิจารณญาณของผู้อ่าน