ได้เวลาสอย! 9 หุ้น mai ร่วงแรงในรอบ 3 เดือน
ได้เวลาสอย! 9 หุ้น mai ร่วงแรงในรอบ 3 เดือน
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่ปรับตัวลงแรงในรอบ 3 เดือน โดยเทียบราคาหุ้น ณ วันที่ 30 ธ.ค.58-31 มี.ค.59 พบว่าราคาหุ้นในตลาดฯทั้งหมด 118 บริษัท ปรับตัวลงแรงมากถึง 58 ตัว และมี 9 ตัวที่ราคาปรับลงเกิน 20%
อีกทั้งหากสังเกตหุ้นที่ปรับตัวแรงทั้ง 58 ตัว ถือว่าอ่อนตัวมาลงแรงมากกว่าตลาดฯอย่างชัดเจน โดยเห็นได้จากดัชนีอยู่ที่ระดับ 522.62 จุด (30 ธ.ค.58) ลดลง 4.22 จุด หรือลดลง 0.80% เมื่อเทียบดัชนีอยู่ที่ระดับ 518.40 จุด (31 มี.ค.59)
แน่นอนหากสังเกตหุ้นอันดับต้นๆตารางที่ปรับตัวลงแรง ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบในเรื่องผลประกอบการ และทิศทางธุรกิจยังไม่สดใสทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา อาทิ UMS, FOCUS, MPG, TAPAC, LDC, SR, CHOW, PSTC และ TSF
อย่างไรก็ตามหากมองอีกด้านหนึ่งถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะได้สะสมหุ้นกลุ่มนี้ เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนปีนี้ที่หุ้นเหล่านี้จะได้พิสูจน์ผลงงาน และโชว์แผนธุรกิจให้กับนักลงทุนได้มั่นใจ ถึงตอนนั้นหุ้นเหล่านี้ก็มีโอกาสกลับมาสดใสและดีดกลับไปราคาเดิมที่เคยร่วงแรงก็เป็นได้
โดยอันดับ 1 คือ บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) หรือ UMS ราคาหุ้นปรับอยู่ที่ระดับ 2.74 บ.(31 มี.ค.59) ลบ 4.21 บ. หรือลดลง 60.58% จากราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 6.95 บ. (30 ธ.ค.58) โดยบริษัทนำเข้าถ่านหินคุณภาพดี มีค่าพลังงานความร้อนสูง และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย เพื่อจัดจำหน่ายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดกรุงเทพและปริมณฑลรวมถึงจังหวัดใกล้เคียง
อันดับ 2 บริษัท โฟคัส ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FOCUS ราคาหุ้นปรับอยู่ที่ระดับ 1.52 บ.(31 มี.ค.59) ลบ 1.14 บ. หรือลดลง 42.86% จากราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.66 บ. (30 ธ.ค.58) บริษัทรับเหมาก่อสร้างและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
อันดับ 3 บริษัท เอ็มพีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MPG ราคาหุ้นปรับอยู่ที่ระดับ 0.67 บ.(31 มี.ค.59) ลบ 0.37 บ. หรือลดลง 35.58% จากราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.04 บ. (30 ธ.ค.58) บริษัทดำเนินธุรกิจค้าปลีก
อันดับ 4 บริษัท ทาพาโก้ จำกัด (มหาชน) หรือTAPAC ราคาหุ้นปรับอยู่ที่ระดับ 15.80 บ.(31 มี.ค.59) ลบ 7.50 บ. หรือลดลง 32.19% จากราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 23.30 บ. (30 ธ.ค.58) บริษัทผลิตชิ้นส่วนพลาสติกและประกอบชิ้นส่วนพลาสติกเพื่อใช้สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็คโทรนิคส์ โดยในปี 2558 บริษัทได้เริ่มเข้าไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย
อันดับ 5 บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC ราคาหุ้นปรับอยู่ที่ระดับ 2.16 บ.(31 มี.ค.59) ลบ 0.80 บ. หรือลดลง 27.03% จากราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.96 บ. (30 ธ.ค.58) บริษัทดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจรโดยทันตแพทย์เฉพาะทางโดยมีมีอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ที่มีมาตรฐานและระบบความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็นสำคัญ ภายใต้แบรนด์ “LDC” ปัจจุบันมีสาขาเปิดดำเนินการ 24 สาขา ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัด โดยมีเป้าหมายเปิดสาขาให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
อันดับ 6-9 ได้แก่ SR, CHOW, PSTC และ TSF ตามลำดับ
ตารางราคาหุ้น mai ที่ราคาปรับตัวลงมากที่สุดในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2559
*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้นเป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำหรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตามล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน