“สมยศ” WHA ปะทะ “สมคิด” THAI
ชั่วโมงนี้ บุคคลที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับความเป็นไปของบริษัทจดทะเบียนทั้งหลาย ต่างสงวนปากสงวนคำระวังตัวกันแจ
–ตามกระแสโลก–
ชั่วโมงนี้ บุคคลที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับความเป็นไปของบริษัทจดทะเบียนทั้งหลาย ต่างสงวนปากสงวนคำระวังตัวกันแจ
หลังหน่วยงานผู้คุมกฎอย่าง ก.ล.ต. แสดงถึงการเอาจริงเอาจัง ด้วยการออกโรงเชือดผู้บริหารจอมโวไปแล้วหลายรายด้วยกัน
กรณีล่าสุด สั่งลงดาบผู้บริหารและกรรมการจากบริษัทจดทะเบียน 4 แห่ง และพ่วงด้วยนักเล่นหุ้นอาชีพอีก 1 ราย
โดยหนึ่งในผู้ที่โดนคำสั่งเปรียบเทียบปรับคราวนี้ คือ “หมอจอร์จ” หรือ นายแพทย์ สมยศ อนันตประยูร แห่งค่าย WHA
จากการไปให้ข่าวกับหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ 2 ฉบับ เกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของ HEMRAJ ซึ่งตอนนั้นยังไม่เปิดเผยตรงๆ
แต่หมอจอร์จให้ฮินท์ทำนองว่า “เตรียมซื้อบริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน มีมูลค่าราว 5 หมื่นล้านบาท และมีค่าพีอีประมาณ 10 เท่า”
แน่นอนแหละครับ ใครก็รู้ว่าหมอหมายถึงบริษัทอะไร และก็แน่นอนอีกเหมือนกันว่า การเผยแพร่ข่าวครั้งนั้นเท่ากับเป็นการชี้นำราคาหุ้น WHA
มิหนำซ้ำ ยังถือเป็นการให้ข่าวกับสื่อมวลชน ก่อนหน้าจะมีการเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯด้วยอีกต่างหาก
ทีนี้ มาลองดูกรณีของ “เจ้าจำปี” หรือ THAI กันบ้าง ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากว่า % ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ถามว่าสำคัญอย่างไร? สำคัญตรงที่วันนั้นคือวันที่ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตการบินไทยไงล่ะ
“ผลประกอบการจะดีขึ้น คาดว่าพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะเริ่มเทคออฟในปีนี้ เข้าใจว่าปีนี้การบินไทยจะมีกำไร และจะมีกำไรต่อเนื่องไปในอีก 5-10 ปีข้างหน้า”
ราคาหุ้นปิดตลาดวันนั้น บวกขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 8.40 บาท พร้อมกับปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก 6 วันทำการติดต่อกัน
โดยราคาปิด ณ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ อยู่ที่ระดับ 12.40 บาท หรือบวกขึ้นไปถึง 4 บาท หรือประมาณ 48% นับจากวันให้ข่าว
ไม่เพียงเท่านั้น ราคาหุ้นยังปรับตัวขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง จนขึ้นมาทำไฮที่ระดับ 14.80 บาท เมื่อวันที่ 30 มีนาคม
พูดให้ง่ายขึ้น คือ หุ้น THAI ปรับตัวขึ้นราว 77% โดยใช้เวลาเพียง 31 วันทำการ หลังดร.สมคิด ออกมาเรียกความเชื่อมั่น!
เห็นตัวเลขเช่นนี้แล้ว ขอบอกว่าปากท่านรองฯช่างศักดิ์สิทธิ์อย่าบอกใครเชียว!
หากย้อนกลับไปซัก 2-3 ปีที่แล้ว การให้ข่าวทำนองนี้ยังถือว่า “โอเค” นะครับ เพราะเหมือนเป็นแค่การนำเสนอเป้าหมายธุรกิจให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ทราบ
แต่เมื่อทุกสิ่งอย่างมันฟ้องว่าอะไรเป็นอะไรในยุคนี้ ผมเลยเกิดสงสัยและอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาว่า…
แบบที่ท่านรองฯพูดน่ะ เท่ากับเป็นการชี้นำราคาหุ้นหรือเปล่า? หรือถือเป็นการปั่นหุ้นด้วยข่าวหรือไม่?
จากใจจริง…ผมไม่ทราบครับ!
ว่าไปแล้ว ดร.สมคิด ก็ไม่ได้เป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน เหมือนกับหมอจอร์จที่ตอนนั้นเป็นประธานบริหารของ WHA
ดังนั้น จึงไม่รู้ว่าแบบนี้เข้าข่ายเป็นการชี้นำราคาโดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการการเมืองได้หรือไม่ อย่างไร
ที่แน่ๆ ก.ล.ต. ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆสำหรับเรื่องนี้ แต่เชื่อว่าอีกไม่นานหรอกครับ… เราคงได้เห็นกัน?
ซึ่งการที่หน่วยงานกำกับอย่าง ก.ล.ต. ออกมากวดขันเอาความกับพวกชอบให้ข่าวปลุกปั่นในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นเรื่องน่ายกย่องและยินดีเป็นอย่างยิ่ง
เพราะส่วนหนึ่งที่ทำให้ตลาดทุนไทยทุกวันนี้ไม่สามารถพัฒนาขึ้นได้อย่างที่ควรจะเป็น ก็เป็นเพราะยังมีผู้บริหารเลว (ทุกประเภทองค์กร) และ สื่อชั่ว คลานยั้วเยี้ยกันอยู่เต็มทั้งวงการ
อย่างไรก็ดี องค์ประกอบแห่งความระยำตำบอนทั้งหลายที่จะนำมาใช้กล่าวหาใครต่อใครควรต้องเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน
โดยไม่มีการผิดแผกแยกกลุ่ม หรือแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน เพราะยังไงการทำผิด มันก็คือการทำผิดอยู่วันยังค่ำ
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มาตรฐานชี้วัดความผิด ชอบ ชั่ว หรือดี ไปขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่าการกระทำ เมื่อนั้นเราก็จะรู้ว่า มันไม่ได้สง่างามอย่างที่คิดนะนายจ๋า!