โชว์ 6 หุ้น สุดปัง! รีเทิร์นเกิน 50%ตอกย้ำพื้นฐานแกร่ง-อนาคตสดใส

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกจากราคาหุ้นที่มีการปรับตัวขึ้นเกิน 50% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 59 (30 ธ.ค.58-30 เม.ย.59) และเป็น บจ. ที่มีสภาพคล่อง ซึ่งได้คัดเลือกมาทั้งหมด 6 บจ. เรียงตามลำดับเปอร์เซ็นต์ที่เปลี่ยนแปลง โดยมีรายชื่อดังต่อไปดังนี้

ตารางแสดงการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น

อันดับที่ 1 บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางการตลาดหลากหลายช่องทาง โดย TVD คาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ทั้งหมดและกลับมาจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งแรกของปีนี้ได้ 

ด้าน บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า TVD มีแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 59 ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปี 58 พลิกกำไร 35-40 ล้านบาท เป็นผลจากการตัดธุรกิจที่ขาดทุนออกและควบคุมต้นทุนภายในองค์กรดีขึ้น

อันดับที่ 2 บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ PICO ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการบริหารจัดทำการประชุมและการแสดงสินค้านานาชาติ กิจกรรมทางการตลาด ซึ่งผลประกอบการไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้นกว่า 20 เท่าตัว โดยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 59 (สิ้นสุด 31 ม.ค.59) มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12.50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2,317% ซึ่งเป็นผลจากรายได้ของธุรกิจการสร้างสรรค์งานแสดงสินค้าและนิทรรศการ และธุรกิจการสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดเพิ่มสูงขึ้นจากลูกค้ารายใหม่และลูกค้าเดิม

อันดับที่ 3 บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งผลประกอบการเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยบริษัทประกาศผลประกอบการสำหรับปี 58 เพิ่มขึ้น 114% อยู่ที่ 118.55 ล้านบาท จากเดิมปี 57 อยู่ที่ 55.29 ล้านบาท เป็นผลมาจากยอดขายหม้อแปลงไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นและการขยายการลงทุนด้านพลังงานทดแทนทั้งภาครัฐและเอกชน

อันดับที่ 4 บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI ผู้ดำเนินธุรกิจธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง โดย TMI คาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปีก่อน หลังตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 20% จากปีที่ผ่านมา และมีแผนรุกตลาดหลอดไฟ LED สำหรับผู้บริโภค (Consumer Market) เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง

อันดับที่ 5 บริษัท โรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNH ผู้ดำเนินธุรกิจสถานพยาบาลเอกชนภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลไทยนครินทร์” ซึ่งผลประกอบการไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้นเกิน 50% โดยบริษัทประกาศผลดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58-59 (สิ้นสุด31 ม.ค.59) มีกำไรสุทธิจำนวน 58.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% จากปีก่อนอยู่ที่ 36,15 ล้านบาท เป็นผลจากการเติบโตของจำนวนผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในอย่างต่อเนื่องและการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายดีขึ้น

อันดับที่ 6 บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางเพื่อขนส่งพนักงานของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในและนอกเขตนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งผลประกอบการเพิ่มเพิ่มขึ้นเกือบ 50% โดยบริษัทประกาศผลประกอบการสำหรับปี 58 เพิ่มขึ้น 47% อยู่ที่ 11.80 ล้านบาท จากเดิมปี 57 อยู่ที่ 8.04 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้จากการให้บริการตามความต้องการใช้รถโดยสารของลูกค้าเพิ่มขึ้นและการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น

 

อนึ่ง ราคาหุ้น บจ.ดังกล่าวปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นถึงพื้นฐานที่แข็งแกร่งและศักยภาพการวางแผนธุรกิจของผู้บริหาร ส่งผลให้ผลประกอบการเป็นไปได้ด้วยดี จึงมีแนวโน้มที่นักลงทุนจะให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน