ข่าวดี! กำไร บจ. Q1 ทะลักกว่า 2.3 แสนล้าน
ตลท.เผย Q1/59 กำไร บจ.ใน SET โต 0.96% YoY สะท้อนสัญญาณฟื้นตัว
นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ใน SET จำนวน 514 บริษัท หรือคิดเป็น 92.28% จากทั้งหมด 557 บริษัท (รวมกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF & REIT) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) / ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน หรือ NC และ บริษัทที่แก้ไขการดำเนินงานไม่ได้ตามกำหนด หรือ NPG) นำส่งผลการดำเนินงาน งวดไตรมาส 1/ 2559 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 แล้ว
ทั้งนี้ บจ.ดังกล่าวมีกำไรสุทธิจำนวน 423 บริษัท คิดเป็น 75.94% ของบริษัทที่นำส่งงบการเงินทั้งหมด มียอดขายรวมเท่ากับ 2,383,912 ล้านบาท ลดลง 6.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลของธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์มียอดขายลดลงตามทิศทางราคาน้ำมัน
และ บจ.มีกำไรสุทธิ 233,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.96% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจในภาคการบริการและอุปโภคบริโภค คือ หมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หมวดเหล็ก หมวดขนส่ง หมวดพาณิชย์ เป็นต้น
ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/58 บจ.มียอดขายลดลง 7.42% แต่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 28.43% และเมื่อพิจารณาฐานะของกิจการพบว่า โครงสร้างเงินทุนของ บจ.ยังคงแข็งแรง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.27 เท่า เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 58 ที่ 1.24 เท่า และมีอัตราส่วนภาระหนี้สินต่อทุน (Interest bearing debt-to-equity ratio) (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 0.69 เท่า เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก ณ สิ้นปี 58
ทั้งนี้ ในกรณีที่ไม่รวมธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และปิโตรเคมีภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่องจากปี 58 ผลการดำเนินงานโดยรวมพบว่า บจ. จะมียอดขายเพิ่มขึ้น 4.03% และมีกำไรสุทธิทรงตัวจากปีก่อนหน้า
ในไตรมาส 1/59 ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลงต่อเนื่อง มีส่วนทำให้ บจ. ใน SET มีรายได้ลดลงจากปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากยอดขายในหมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค และปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ที่ปรับลดลง อย่างไรก็ดี ขณะเดียวกันมีส่วนช่วยให้ บจ. มีต้นทุนการผลิตลดลงเช่นกัน จึงทำให้ในภาพรวม บจ. มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นเป็น 24.55% เทียบกับ 21.74% ในช่วงเดียวกันในปีก่อน
ผลการดำเนินงานของ บจ. สะท้อนให้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของ บจ. ในเรื่องแรก คือ การมีอัตรากำไรดีขึ้น ซึ่งพบถึง 21 หมวดธุรกิจ และเรื่องที่สองคือ การฟื้นตัวด้านยอดขาย อัตรากำไรขั้นต้น และการมีกำไรสุทธิปรับสูงขึ้น ซึ่งพบมีถึง 10 หมวดธุรกิจ และส่วนใหญ่อยู่ในหมวดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการบริการ และการอุปโภคบริโภค ได้แก่ หมวดขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รับเหมาก่อสร้าง เหล็ก พาณิชย์ บรรจุภัณฑ์ สินค้าแฟชั่น ของใช้ในครัวเรือนสำนักงาน และบริการเฉพาะกิจ
ด้านผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ปรับลดลง โดย บจ. mai มียอดขาย 31,036 ล้านบาท ลดลง 0.14% และมีกำไรสุทธิ 1,782 ล้านบาท ลดลง 19.47% จากงวดเดียวกันปีก่อน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเช่นกันจาก 25.48% เป็น 24.24%