เปิดเมนูเด็ด 11 หุ้นจิ๋วรสแซ่บ!ราคาสูงปรี๊ดกวาดรีเทิร์นเกิน 50%

เปิดเมนูเด็ด 11 หุ้นจิ๋วรสแซ่บ! ราคาหุ้นนับตั้งแต่ต้นเดือนสูงปรี๊ด กวาดรีเทิร์นเกิน 50% นำโดย QTC,TVD,PICO,TMI และDNA


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ mai ช่วง 5 เดือนแรกของปี 2559 โดยใช้เกณฑ์การคัดเลือก บจ. ที่มีสภาพคล่อง และราคาปรับตัวขึ้นเกิน 50% นับตั้งแต่ราคาปิดวันที่ 30 ธ.ค.58 – 31 พ.ค.59 พบว่า บจ. ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวทั้งหมด 11 บจ. ประกอบด้วย QTC, THN, TVD, PICO, TMI, DNA, TMC, 2S, KOOL, TNP และ XO

ตารางแสดงราคาหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเกิน 50%

 

อันดับที่ 1 บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ QTC ราคาปรับตัวขึ้น 129% บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “Fully Valued” ราคาเป้าหมาย 9.10 บาท หลังจากมองว่าราคาเริ่มเต็มมูลค่าจากโรงไฟฟ้า ด้านรายได้ในไตรมาส 1/59 ลดลง 48% จากปีก่อน เป็นผลจากทางด้านฤดูกาล ขณะที่การลดลงเป็นผลจากโรงไฟฟ้าที่เร่ง COD ให้ทันในปลายปีที่แล้ว ทำให้ลูกค้าเอกชนลดลงมาก

ด้านผลประกอบการจะถูกกดดันในช่วง 1-2 ปีนี้ โดยในช่วงเวลาที่บริษัทยังไม่สามารถรับรู้รายได้จากการลงทุน เป็นช่วงก่อสร้างโรงไฟฟ้า 1-2 ปีนี้ ผลประกอบการจะถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึง Dilution Effect จากการเพิ่มทุนเข้ามาก่อนซึ่งอยู่ที่ 25.92% จากหุ้นเพิ่มทุน 70 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.70 บาท

ขณะที่ราคาหุ้น QTC ปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง และเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 Cash Balance สิ้นสุดวันที่ 24 มิ.ย.59

 

อันดับที่ 2 บริษัท โรงพยาบาลไทยนครินทร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNH ราคาปรับตัวขึ้น 81% ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับขึ้นคาดว่ามาจากการเข้าซื้อเพื่อเก็งผลประกอบการที่คาดการณ์ว่าจะออกมาดี โดยล่าสุดบริษัทประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3/59 สิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.59 มีกำไร 74.16 ล้านบาท หรือมีกำไร 0.41 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 37% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนที่มีกำไร 54.19 ล้านบาท หรือมีกำไร 0.30 บาทต่อหุ้น

 

อันดับที่ 3 บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ราคาปรับตัวขึ้น 77% ผู้บริหารส่งสัญญาณผลประกอบการไตรมาส 2/59 เติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1/59 ที่มีกำไรสุทธิ 35.38 ล้านบาท และมีรายได้กว่า 933.22 ล้านบาท ด้านผลประกอบการปี 59 การันตีรายได้ทะลุ 3.2 พันล้านบาท และคาดหวังว่าจะสามารถพลิกเป็นกำไรจากปีก่อนที่ขาดทุน 40.60 ล้านบาท และจะล้างขาดทุนสะสมทั้งหมดที่มีอยู่ราว 67 ล้านบาท จากนั้นจะกลับมาจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งแรกของปีนี้ พร้อมทั้งตั้งงบลงทุนกว่า 630 ล้านบาทในการขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาร้านค้าเดิม รวมทั้งเพิ่มเม็ดเงินโฆษณาสินค้า

 

อันดับที่ 4 บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ PICO ราคาปรับตัวขึ้น 67% สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับขึ้นคาดว่ามาจากการเข้าซื้อเพื่อเก็งผลประกอบการที่คาดการณ์ว่าจะออกมาดี โดยผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 เม.ย.59 มีกำไร 17.49 ล้านบาท หรือมีกำไรต่อหุ้น 0.081 บาท เพิ่มขึ้น 44% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อนที่มีกำไร 12.15 ล้านบาท หรือมีกำไรต่อหุ้น 0.056 บาท

 

อันดับที่ 5 บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMI ราคาปรับตัวขึ้น 67% ผู้บริหารคาดว่าในปี 59 บริษัทจะสามารถทำกำไรสุทธิได้สูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 0.62 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้เติบโตที่ 20% จากปีก่อน โดยบริษัทจะรุกตลาดหลอดไฟ LED สำหรับผู้บริโภค หรือ Consumer Market เพิ่มมากขึ้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ GATA อีก 2-3 รายการภายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

รวมถึงเร่งขยายฐานการส่งออกให้ครอบคลุมตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทั้งหมดจากในปัจจุบันที่มีการส่งออกไปยังกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งอยู่ในกลุ่ม CLMV เพื่อเป็นการขยายตลาดให้กว้างมากขึ้นรวมถึงยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น TMI ปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง และเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 Cash Balance สิ้นสุดวันที่ 24 มิ.ย.59

 

อันดับที่ 6 บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA ราคาปรับตัวขึ้น 62% ผู้บริหารคาดว่าในปี 59 ผลประกอบการจะพลิกมีกำไรสุทธิ ตามรายได้ที่คาดว่าจะเติบโตจากปีก่อน หลังธุรกิจหลักทั้งพลังงานทดแทน ,ธุรกิจการบริหารจัดการน้ำ ,ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และธุรกิจอาหารยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะมีการปรับแผนในธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ที่จะหันมาเน้นงานบริหารสื่อ พร้อมกับลดบทบาทสื่อโฆษณานอกบ้าน รวมถึงลดการซื้อคอนเท้นท์เพื่อหวังลดต้นทุนการดำเนินงาน ขณะที่การจะขายหุ้นทั้งหมด 75% ในบริษัท ไพร์มไทม์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (PTE) เชื่อว่าจะช่วยลดความเสี่ยงของธุรกิจลงได้

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น DNA ปรับตัวขึ้นแรง และเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายระดับ 1 Cash Balance สิ้นสุดวันที่ 20 มิ.ย.59

 

ส่วนอันดับ 7-11 ประกอบด้วยบริษัท ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMC, บริษัท 2 เอส เมทัล จำกัด (มหาชน) หรือ 2S, บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KOOL, บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP และบริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO

 

ทั้งนี้ หุ้นที่กล่าวถึงขั้นต้นนั้นมีการปรับตัวที่ค่อนข้างสูงมากแล้ว จึงถือเป็นความเสี่ยงต่อการเพิ่มน้ำหนักการลงทุน ซึ่งบางบริษัทนั้นราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูงและเข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขายไปแล้ว นักลงทุนจึงควรศึกษาข้อมูลพื้นฐานและผลประกอบการของบริษัทให้ดีก่อนเข้าลงทุน

 

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button