เช็ค! วอแรนต์เดือน มิ.ย. ก่อนหมดสิทธิ์-หมดอายุ!
เช็ค! วอแรนต์เดือนมิ.ย.ก่อนหมดสิทธิ์-หมดอายุ! นำโดย ILINK-W1, POLAR-W2 นักลงทุนจะแปลงสิทธิ์หรือไม่ตัดสินใจ
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจ “Warrant” (หุ้นลูก) หรือ ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ในการจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น (บจ.) ที่ใกล้ถึงวันใช้สิทธิเป็นครั้งสุดท้าย หรือใกล้วันหมดอายุ เพื่อเป็นประโยชน์และไม่พลาดโอกาสในการลงทุน และเป็นข้อมูลให้นักลงทุนได้ตัดสินใจว่าจะเลือกใช้สิทธิ์แปลงวอแรนท์เป็นหุ้นสามัญหรือไม่นั่นเอง
โดยในเดือน มิ.ย.59 มี วอแรนท์ (Warrant) ที่ใกล้หมดอายุและใกล้ถึงวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายได้แก่ ILINK-W1 และ POLAR-W2
สำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ครั้งที่ 1 หรือ ILINK-W1 โดยราคาใช้สิทธิอยู่ที่ 8.00 บาท ในอัตราใช้สิทธิ (หลักทรัพย์:หลักทรัพย์อ้างอิง)1:2.5 กำหนดวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายในวันที่ 23 มิ.ย.59 และวันหมดอายุในวันที่ 24 มิ.ย.59
ทั้งนี้หากดูราคาหุ้นแม่ ILINK อยู่ที่ 14.80 บาท (ณ วันที่ 21 มิ.ย.) และนำมาคิดคำควณการแปลงสิทธิ์จะเห็นว่า ILINK-W1 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 17.00 บาท (ณ วันที่ 20 มิ.ย.) และเมื่อรวมกับค่าแปลงสิทธิ์ซึ่งอยู่ที่ระดับ 8.00 บาท จะได้ราคาเท่ากับ 25.00 บาท ตรงนี้ถือว่าแพงกว่าหุ้นแม่อย่างชัดเจน
ส่วนใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR ครั้งที่ 2 หรือ POLAR-W2 โดยราคาใช้สิทธิอยู่ที่ 6.90บาท อัตราใช้สิทธิ (หลักทรัพย์:หลักทรัพย์อ้างอิง) 1:0.05797 กำหนดวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 27 มิ.ย. 2559 และวันหมดอายุในวันที่ 28 มิ.ย. 2559
ทั้งนี้ราคาหุ้นแม่ POLAR ที่ 0.13 บาท (ณ วันที่ 21 มิ.ย.) และนำมาคิดคำควณการแปลงสิทธิ์จะเห็นว่า POLAR-W2 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 0.01 บาท (ณ วันที่ 15 พ.ค.) มารวมกับค่าแปลงสิทธิ์ซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.90 บาท ซึ่งเท่ากับ 6.91 บาท ตรงนี้ถือว่าแพงกว่าหุ้นแม่อย่างชัดเจน
สำหรับประเด็นหลักที่จะทำให้นักลงทุนตัดสินนำใบสำคัญในการใช้สิทธิซื้อหุ้นแม่หรือไม่แบ่งเป็น 3 กรณี
1) ราคา warrant (หุ้นลูก) + ราคาใช้สิทธิ < ราคาหุ้นสามัญ (หุ้นแม่) กรณีที่ 1 น่าซื้อเพราะนักลงทุนจะได้สิทธิซื้อหุ้นแม่ที่ราคาต่ำกว่าราคาในกระดานของหุ้นแม่ ณ เวลานั้น
2) ราคา warrant (หุ้นลูก) + ราคาใช้สิทธิ = ราคาหุ้นสามัญ (หุ้นแม่) กรณีที่ 2 ไม่น่าซื้อ เพราะได้ทุนเท่ากับตัวแม่ ซึ่งนักลงทุนไม่สามารถรู้ได้ว่าหุ้นแม่จะลงหรือขึ้น
3) ราคา warrant (หุ้นลูก) + ราคาใช้สิทธิ > ราคาหุ้นสามัญ (หุ้นแม่) กรณีที่ 3 ไม่น่าซื้อ เพราะได้ราคาแพงกว่าหุ้นแม่ เหมือนซื้อที่ราคาสูงๆจะไม่คุ้ม
อย่างไรก็ตามสิ่งที่นักลงทุนต้องดูก่อนซื้อหรือก่อนแปลงสิทธิสำคัญมาก คือ วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย หรือ ดูวันหมดอายุ เพราะหากไม่ดูหลักการดังกล่าวใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่ถืออยู่คงกลายเป็นเพียงกระดาษเปล่าเท่านั้น