LOXLEY รับรายได้ปีนี้พลาดเป้า เหตุประมูลงานโครงการรัฐ H1/61 ล่าช้า
LOXLEY รับรายได้ปีนี้พลาดเป้า เหตุประมูลงานโครงการรัฐ H1/61 ล่าช้า
นายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY เปิดเผยว่า บริษัทพยายามรักษาระดับรายได้ปี 61 ที่ระดับ 1.5 หมื่นล้านบาท หลังจากพลาดเป้ารายได้ที่ตั้งไว้เติบโตราว 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 16,411 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการเปิดประมูลงานโครงการภาครัฐในช่วงครึ่งปีแรกล่าช้ากว่าคาด ซึ่งปัจจุบันบริษัทให้ความสำคัญงานภาครัฐกว่า 60-70% ของงานทั้งหมดในมือ ประกอบกับปีนี้บริษัทไม่มีการรับรู้รายได้จากโครงการโทรคมนาคม (Broadcast) ซึ่งมีขนาดใหญ่ทำให้ฐานรายได้ในปีก่อนค่อนข้างสูง
โดยปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่ระดับ 11,741 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 41% ส่วนที่เหลือจะรับรู้ในปี 62 ทั้งหมด ขณะที่บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานที่คาดว่ามีโอกาสได้รับสูง (High Potential) มูลค่ากว่า 11,960 ล้านบาท คาดหวังว่าจะได้งานมากกว่า 50% และยังสนใจเข้าร่วมประมูลงานอื่น ๆ อีกมูลค่าราว 1.53 หมื่นล้านบาท ที่คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 62
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังผลประกอบการจะออกมาดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก จากคาดว่างานประมูลภาครัฐจะทยอยออกมามากขึ้น โดยงานที่บริษัทให้ความสนใจเข้าร่วมประมูล ได้แก่ งานโครงการสายพานในสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 คาดว่ามีมูลค่าโครงการราว 2 พันล้านบาท และโครงการกล้องวงจรปิดตรวจคนเข้าเมือง (CCTV) มูลค่ารวม 1.4-1.5 พันล้านบาท เป็นต้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในการเปิดประมูลช่วงปลายปี 61
นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิจากงานโครงการเฉลี่ยที่ระดับ 7% จากเดิมที่ระดับต่ำเพียง 4-5% ซึ่งเป็นผลมาจากการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นสำหรับโครงการขนาดใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 10-12% ส่วนโครงการขนาดเล็กที่ 13% โดยทั้งปี 61 คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 13% ประกอบกับบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้นหลังจากมีการยุบรวมเพื่อใช้ส่วนกลางร่วมกัน
อีกทั้งบริษัทยังมีการรับรู้รายได้งาน Network System ในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับรับรู้รายได้จากธุรกิจ HoReCa เต็มที่จากมีการร่วมทุนในช่วงไตรมาส 2/61 และรับรู้ส่วนแบ่งรายได้ตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท BP-Castrol (Thailand), บริษัท NS BlueScope Lysaght และ NS BlueScope Steel
“บริษัทจะรักษาการเติบโตของรายได้ปี 62 ที่ระดับ 15-20% จากเชื่อว่าจะมีงานประมูลภาครัฐออกมามากขึ้น อีกทั้งยังมีการกระจายความเสี่ยงจากการเข้ารับงานเอกชนมากขึ้น ทั้งนี้บริษัทไม่มีความกังวลด้านปัจจัยการเมืองตราบใดที่ยังมีการจัดซื้อจัดจ้างจากภาครัฐ” นายเฉลิมโชค กล่าว
นายเฉลิมโชค กล่าวอีกว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาร่วมทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนจำนวน 2-3 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตเฉลี่ย 6-8 เมกะวัตต์ต่อโครงการ โดยมีแผนเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 20-30% และตั้งเป้าผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่น้อยกว่า 10% คาดว่าจะชัดเจนในไตรมาส 1/62 ซึ่งบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีกระแสเงินสดราว 700-800 ล้านบาท ประกอบกับมีความสามารถในการกู้สถาบันการเงินเนื่องจากมีอัตราหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำ และมีวงเงินหุ้นกู้ที่เหลืออีกกว่า 1 พันล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเดินหน้าแผนนำบริษัทย่อย “บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 63 โดยจะนำงบการเงินในปี 62 เป็นฐาน ซึ่งปัจจุบันบริษัทย่อยมีความสามารถทำกำไรได้ราว 50-60 ล้านบาทต่อปี อย่างไรก็ดี ยังต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งหนึ่งว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET หรือ mai