ADVANC-INTUCH ร่วงหนัก! เซ่นอนุญาโตฯ สั่งชดเชย “TOT” กว่า 3 หมื่นลบ.
ADVANC-INTUCH ร่วงหนัก! เซ่นอนุญาโตฯ สั่งชดเชย "TOT" กว่า 3 หมื่นลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 10.05 น. ราคาหุ้น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC อยู่ที่ 206 บาท ลบ 8 บาท หรือ 3.74% สูงสุดที่ 207 บาท ต่ำสุดที่ 204 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 975.66 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH อยู่ที่ 55.75 บาท ลบ 2.50 บาท หรือ 4.29% สูงสุดที่ 56 บาท ต่ำสุดที่ 55.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 296.43 ล้านบาท
ทั้งนี้ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “WEAK BUY” ADVANC ราคาเป้าหมาย 260 บาท/หุ้น จากประเด็นที่ ADVANC แจ้งตลาดว่า TOT ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทสถาบันอนุญาโตตุลาการเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2558 และ 30 พ.ย. 2558 โดยเรียกร้องให้บริษัทชำระเงินผลประโยชน์เพิ่มเติมจากการทำข้อตกลงต่อท้ายสัญญาอนุญาตให้ดำเนินกิจการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ครั้งที่ 6 และ ครั้งที่ 7 จำนวน 62,774 ล้านบาท
โดยกล่าวอ้างว่าครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2544 กรณีการลดส่วนแบ่งรายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงิน และครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2545 กรณีการหักค่าใช้จ่ายการใช้เครือข่ายร่วม (roaming) เป็นการแก้ไขสัญญาในสาระสำคัญที่ทำให้ TOT ได้ผลประโยชน์ตอบแทนต่ำกว่าที่กำหนดในสัญญาหลัก
ทั้งนี้ ADVANC แจ้งว่าในวันที่ 29 ม.ค. 2563 คณะอนุญาโตตุลาการได้ชี้ขาดด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 ให้ บริษัท ชำระเงินผลประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวน 31,076 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือนตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2558
อย่างไรก็ดี บริษัทไม่เห็นด้วยกับคำชี้ขาดดังกล่าว และจะดำเนินการยื่นคำร้องเพื่อขอเพิกถอนคำชี้ขาดต่อศาลปกครองกลางภายในกำหนดเวลา 90 วันนับแต่ได้รับคำชี้ขาด
ทั้งนี้ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มองว่า คดีดังกล่าวยังไม่สิ้นสุด ต้องรอการตัดสินจากศาลปกครองกลางอีกครั้ง ซึ่งขบวนการยังต้องผ่านขั้นตอนการตัดสินจากศาลปกครองชั้นต้น และชั้นสูงสุดอีกครั้ง
โดยกรณีครั้งที่ 6 ที่ทาง ADVANC ขอลดส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการแบบเติมเงินจากเดิม เป็นขั้นบันได 20% ในช่วงต้นถึงกลางอายุสัมปทาน 30% ในช่วงกลางอายุสัมปทานถึงสิ้นสุดอายุสัมปทาน เนื่องจาก DTAC ซึ่งเป็นคู่สัมปทานกับ CAT ผู้ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ต้องจ่ายค่า access charge ให้ TOT เดือนละ 200 บาทต่อเลขหมายเพื่อให้บริการมือถือในประเทศได้ ขอลดอัตราค่า access charge ของบริการเติมเงินจาก 200 บาท/เดือน เหลือ 18% ของรายได้ เพราะการเก็บค่า access charge บริการเติมเงินที่ 200 บาท/เดือน จะทำให้ผู้ประกอบการขาดทุน การลดค่า access charge บริการเติมเงินให้คู่สัมปทานของ CAT ทำให้ ADVANC เสียเปรียบคู่แข่ง จึงขอลดส่วนแบ่งรายได้จากขั้นบันได เป็นอัตราคงที่ที่ 20%
ขณะกรณีครั้งที่ 7 การหักค่าใช้จ่ายการใช้เครือข่ายร่วม (roaming) ADVANC มองว่ามีความเป็นธรรม เพราะในกรณีมีรายได้จาก Operator รายอื่นมาใช้โครงข่ายร่วม ทาง ADVANC ก็นำมารวมคำนวณส่วนแบ่งรายได้ ดังนั้น รายได้ Roaming ที่นำมาคำนวณควรเป็นรายได้สุทธิ (ผลต่างระหว่างรายได้และรายจ่ายจากการใช้เครือข่ายร่วม)
ดังนั้นทั้ง 2 กรณี ADVANC เห็นว่าทางบริษัทได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง จึงมิได้ตั้งสำรองรายจ่ายทั้ง 2 กรณีเลย ขณะที่ขบวนการชั้นศาลปกครองยังต้องเวลาพิจารณาอีกนานจึงจะสรุปผล
ทั้งนี้กรณีเลวร้ายสุด หาก ADVANC แพ้คดี จะต้องชำระผลประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวน 31,076 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอีกราว 2 หมื่นล้านบาท รวมเป็นเงิน 5.1 หมื่นล้านบาท กระทบต่อหุ้น ราว 17.20 บาท ขณะที่ราคาเป้าหมายปี 260 บาท มีโอกาสปรับลดลง หลังประมูลคลื่น 5G ในเดือนก.พ.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับภาระการลงทุน 5G ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จึงแนะนำให้รอ ซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัว หลุด 200 บาท รับแรงขาย Panic sell ในวันนี้