ยอดลงทะเบียน “เราชนะ” เฉียด 10 ล้านคน 15 ก.พ.เปิดรับคนไม่มีสมาร์ทโฟน
ยอดลงทะเบียน "เราชนะ" เฉียด 10 ล้านคน 15 ก.พ.เปิดรับคนไม่มีสมาร์ทโฟน
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่โครงการเราชนะได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือเยียวยา ผ่านเว็บไซต์เราชนะ ตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. ตัวเลขนับถึงวันที่ 5 ก.พ. มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 9.54 ล้านคน ซึ่งการลงทะเบียนจะเปิดถึงวันที่ 12 ก.พ.
สำหรับประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ทางกระทรวงการคลัง ล่าสุดแจ้งว่า จะเปิดให้ลงทะเบียนที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หรือหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. เป็นต้นไป ยังไม่มีกำหนดปิดรับลงทะเบียน
อนึ่ง เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนต่อมาตรการเยียวยาลดภาระค่าครองชีพของรัฐบาล จะขอแบ่งประชาชนออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
1) กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้วงเงินจากโครงการเราชนะได้กับร้านค้าที่เคยใช้อยู่บริการอยู่แล้ว เช่น ร้านธงฟ้า รวมถึงร้านค้าร่วมโครงการคนละครึ่งและโครงการเราชนะ ด้วยการสแกนบัตรฯผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงิน เริ่มแล้วเมื่อ 5 ก.พ.
2) กลุ่มที่มีแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง (จากโครงการคนละครึ่ง/เราเที่ยวด้วยกัน) สามารถตรวจสอบสิทธิได้ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.
3) กลุ่มที่ลงทะเบียนใหม่ สามารถตรวจสอบสิทธิได้ ตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.
ทั้งนี้ การตรวจสอบสิทธิต้องเข้าไปที่เว็บไซด์เราชนะ กดที่ช่อง “ตรวจสอบสถานะผู้ได้รับสิทธิ” หากพบว่า “ไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ” สามารถแสดงความประสงค์ขอทบทวนสิทธิได้ทางเว็บไซต์เราชนะ ตั้งแต่ 8 ก.พ. ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิ ทางกระทรวงการคลังจะโอนวงเงินให้ครั้งแรก 2,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง เริ่มวันที่ 18 ก.พ. และจะทยอยโอนให้จนครบ 7,000 บาท ในปลายเดือนมี.ค. จึงขออย่าได้กังวลที่ตอนนี้ไม่มีวงเงินโอนไปถึงมือ
4) กลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบการเยียวยา ภายใต้โครงการ “ม33 เรารักกัน” โดยกระทรวงแรงงานให้ข้อมูลว่า ผู้ประกันตนฯจะได้รับการช่วยเหลือค่าครองชีพ คนละ 4,000บาท ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง มีเงื่อนไขคือ ต้องไม่มีเงินฝากในสถาบันการเงินรวมกันเกิน 5 แสนบาท ไม่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะเปิดให้เริ่มลงลงทะเบียนช่วงกลางเดือนนี้ ที่ www.ม33เรารักกัน.com การโอนเงินจะแบ่งเป็น 4 ครั้ง ตั้งแต่มี.ค.- เม.ย. เรื่องนี้จะเสนอให้ครม. พิจารณา วันที่ 15 ก.พ. สิทธิการใช้เงินของทุกกลุ่มมีถึงวันที่ 31 พ.ค. ใช้ไม่หมดในแต่ละงวดสามารถสะสมไว้ได้
ทั้งนี้ รัฐบาลอยากให้ร้านค้ารายย่อย ผู้ให้บริการ และผู้ประกอบการที่ไม่ใช่นิติบุคคล เข้าร่วมโครงการเราชนะ” ให้มากๆ เพราะเป็นโอกาสที่ทางร้านจะได้เพิ่มลูกค้าและเพิ่มรายได้ ซึ่งขณะนี้ได้มีการขยายประเภทผู้ให้บริการมากขึ้น ประกอบด้วย
1) มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ รถตู้ สามล้อเครื่อง รถสองแถว สามล้อถีบ
2) ร้านนวด สปาร้านตัดผม ทำเล็บ
3) สถานพยาบาลที่ไม่รับผู้ป่วยค้างคืน แพทย์แผนจีน คลินิกรักษาทางการแพทย์อื่นๆ
4) หอพัก อพาร์ตเมนท์ แฟลต
5) ตัดเย็บ ซ่อมสินค้า/เสื้อผ้า
6) ซ่อมรถยนต์/จักรยานยนต์/จักรยาน
7) ซ่อมประปา ไฟฟ้า แอร์
8) งานก่อสร้างขนาดเล็ก บริการทำสวน/ตกแต่งสวน
9) รับเหมาทำความสะอาด/ฆ่าเชื้อ/ฉีดปลวก
10) ซักรีด ผู้สนใจลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์เราชนะ ส่วนร้านอาหารและเครื่องดื่ม และร้านจำหน่ายสินค้าทั่วไปลงทะเบียนที่เว็บไซต์คนละครึ่ง ได้ถึงวันที่ 31 มี.ค. การจ่ายเงินให้กับร้านค้า จะโอนให้ในวันรุ่งขึ้นไม่เว้นวันหยุดราชการ และเจ้าของร้านจะเห็นยอดขายในแต่ละวันผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงินในทุกๆวัน