ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ 157 ราย ดันยอดป่วยสะสม 23,903 คน ดับเพิ่มอีก 1

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ (10 ก.พ.64) ระบุพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 157 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 144 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 38 ราย ค้นหาเชิงรุก 106 ราย และเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้ง 13 ราย โดยจำนวนนี้ 8 ราย เข้าสถานกักกันที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) อีก 5 รายเป็นผู้ที่เดินทางมาจากอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 23,903 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 21,329 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 13,545 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,574 ราย อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 1,966 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 548 ราย รักษาหายป่วยแล้วรวม 18,914 ราย ยังรักษาอยู่ 4,909 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมขยับขึ้นเป็น 80 ราย

สำหรับผู้เสียชีวิตรายล่าสุด เป็นหญิงไทย อายุ 65 ปี มีโรคประจำตัว มะเร็งที่กล่องเสียง มีภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย มีไขมันในเลือดสูงมีประวัติเป็นผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อในครอบครัวที่มาจากจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสมาชิกในครอบครัวติดเชื้อทั้งหมด 5 คน จาก 8 คน

วันที่ 29 ธ.ค.63 ผู้ป่วยได้ไปฟอกไตที่รพ.เอกชนใน จ.สมุทรสาคร โดยผู้ป่วยมีอาการหนาวสั่นก่อนฟอกไต สงสัยว่ามีการติดเชื้อบริเวณที่เจาะคอ ประกอบกับผู้ป่วยมีประวัติสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโควิด-19

วันที่ 1 ม.ค.64 ผลตรวจยืนยันติดเชื้อโควิด-19 จึงย้ายไปรักษาที่รพ.แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ โดยผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อย ปอดอักเสบ เจาะคอ ใส่เครื่องช่วยหายใจ อยู่ในห้องความดันลบ ต่อมามีการติดเชื้อรุนแรงขึ้น พบว่ามีเกล็ดเลือดต่ำ เลือดออกบริเวณที่ท่อช่วยหายใจ ทางเดินอาหาร เยื่อบุกระเพาะอาหาร เกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน พบเชื้อราในกระแสเลือด แพทย์พยายามปรับยา แต่ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น  เมื่อวันที่ 8 ก.พ.64 หัวใจเต้นช้าลง ภาวะความดันโลหิตต่ำลง กระทั่งเสียชีวิตในเวลา 23.00 น.