ปทุมฯ-สมุทรสาคร เจอผู้ป่วยโควิดใหม่ จังหวัดละ 73 ราย “ตลาดกลางกุ้ง” ยังปิดต่อถึง 28 ก.พ.
สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดปทุมธานี และสมุทรสาคร ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจังหวัดละ 73 ราย โดยที่จังหวัดสมุทรสาคร รองผู้ว่าฯ ยังคงสั่งปิด "ตลาดกลางกุ้ง" ต่อถึง 28 ก.พ. เพื่อสกัดการแพร่ระบาด
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี รายงานข้อมูลสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ล่าสุด ณ เวลา 15.00 น. ของวันที่ 16 ก.พ.64 พบผู้ป่วยรายใหม่อีก 73 ราย
โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ล่าสุด แบ่งเป็น ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 72 ราย เป็นคนไทย 26 ราย ต่างชาติ 46 ราย ส่วนผู้ป่วยในโรงพยาบาล 1 ราย เป็นคนไทย ทำให้ขณะนี้จังหวัดปทุมธานี มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 335 ราย โดยทางจังหวัดได้ทำการค้นหาเชิงรุกไปแล้ว 16,467 ราย
ขณะที่จังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร (สสจ.) ได้รายงานข้อมูลสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ ล่าสุด ณ เวลา 24.00 น. ของวันที่ 16 ก.พ.64 พบผู้ป่วยรายใหม่อีก 73 รายจากวานนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 16 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ล่าสุด แบ่งเป็น ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 39 ราย เป็นคนไทย 12 ราย ต่างชาติ 27 ราย ส่วนผู้ป่วยในโรงพยาบาล 34 ราย เป็นคนไทย 22 ราย ต่างชาติ 12 ราย ทำให้ขณะนี้จังหวัดสมุทรสาครมียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมรวมเป็น 15,826 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 7 ราย จากการค้นหาเชิงรุกไปแล้ว 175,581 ราย
นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ลงนามประกาศคำสั่ง เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 บริเวณตลาดกลางกุ้ง โดยห้ามเปิดดำเนินกิจการใดๆ โดยให้หยุดการซื้อ การขาย การค้า และการทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปกุ้งและสัตว์น้ำประเภทอื่นในพื้นที่ตลาดกลางกุ้ง เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการแก้ไขปรับปรุงการสุขาภิบาลให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ให้ปรับปรุงอาคารหรืออาคารที่พักอาศัยในตลาดกลางกุ้ง โดยจะต้องทำการตรวจสอบความแข็งแรงของอาคาร อุปกรณ์ส่วนควบ กำหนดจำนวนผู้พักอาศัยให้สอดคล้องกับขนาดพื้นที่ โดยประกาศคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับถึงวันที่ 28 ก.พ.64
ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการแล้วให้เสนอแนวทางปรับปรุงตลาด ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครพิจารณา และเมื่อดำเนินการปรับปรุงตามที่เสนอเสร็จ จึงสามารถดำเนินการซื้อขาย คัดแยก แปรรูปกุ้งและสัตว์น้ำประเภทอื่นได้ หรือเปิดดำเนินการในอาคารหรืออาคารที่พักอาศัยได้
กรณีผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ มีโทษตามนัยมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ