ฝรั่งเศสไม่หวั่น ลุยฉีดวัคซีน “แอสตราฯ” ต่อ เหตุไร้หลักฐานชี้ชัดความเสี่ยง
ฝรั่งเศสไม่หวั่น ลุยฉีดวัคซีน “แอสตราฯ” ต่อ เหตุไร้หลักฐานชี้ชัดความเสี่ยง
นายโอลิวิเยร์ เวอรอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศสได้ประกาศยืนยันว่า ฝรั่งเศสจะดำเนินการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาต่อไป แม้ว่าบางประเทศในภูมิภาคยุโรปได้ตัดสินใจระงับการฉีดวัคซีนดังกล่าวชั่วคราว หลังจากมีรายงานกรณีการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับวัคซีนบางราย
“ในขณะนี้ ทั้งยุโรป ฝรั่งเศส และเยอรมนีต่างก็เห็นตรงกันว่ายังไม่มีหลักฐานเพียงพอจะพิสูจน์ได้ว่าการฉีดวัคซีนนี้มีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ” นายเวอรองกล่าวเมื่อวานนี้ (11 มี.ค.64)
โดยนายเวอรอง ระบุกับผู้สื่อข่าวว่า สำนักงานยาของฝรั่งเศสนั้นเห็นว่ายังไม่มีเหตุผลใดๆ ให้สั่งระงับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นไปในทางเดียวกันกับข้อมูลจากสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA)
“ประโยชน์ของวัคซีนแอสตราเซเนกานั้นมีมากกว่าความเสี่ยง ทางกระทรวงฯ จะมีการตรวจสอบตามระเบียบในทุกกรณีที่มีรายงานว่าเป็นผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีน โดยแต่ละกรณีจะได้รับการวิเคราะห์เพื่อสืบหาว่ามีความเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนจริงหรือไม่ และในขณะนี้ยังไม่พบกรณีผลข้างเคียงร้ายแรงอย่างเป็นทางการเลย” นายเวอรองกล่าว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวานนี้หน่วยงานด้านสาธารณสุขของเดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ได้สั่งระงับการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของแอสตราเซเนกาเป็นการชั่วคราวแล้ว หลังจากมีรายงานกรณีการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับวัคซีนเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสเปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้ประชาชนชาวฝรั่งเศส 4.54 ล้านรายได้รับการฉีดวัคซีนโดสแรกแล้ว และอีก 1.26 ล้านรายได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วทั้ง 2 โดส โดยในวันที่ 11 มี.ค.วันเดียวมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนมากถึง 286,000 ราย ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการฉีดวัคซีนในฝรั่งเศสเมื่อปลายเดือนธ.ค. 2563