ม็อบถึงทำเนียบฯ สร้างหมู่บ้าน “ทะลุฟ้า”-ตร.จัด 31 กองร้อยคุมเข้ม
ม็อบเดินเท้าถึงทำเนียบฯ สร้างหมู่บ้าน "ทะลุฟ้า" กดดันปล่อยแกนนำ-นายกฯ ลาออก ยันชุมนุมสงบ ฟากบช.น. จัดชุดควบคุมฝูงชน 31 กองร้อย พร้อมรับมือ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการจัดกิจกรรม “เดินทะลุฟ้า V.2” ของกลุ่มเดินทะลุฟ้าที่มีไผ่ ดาวดิน เป็นแกนนำ พร้อมด้วยแนวร่วมกลุ่มราษฎรหลากหลายกลุ่ม อาทิ แดงก้าวหน้า อาชีวะพิทักษ์ประชาธิปไตย เครือคนรุ่นใหม่นนทบุรี แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
โดยระบุว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่มีการนัดหมายเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปยังทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เวลา 14.00 น.วันนี้ (13 มี.ค.64) ล่าสุดได้เคลื่อนขบวนถึงทำเนียบรัฐบาลแล้ว และเริ่มสร้างหมู่บ้านทะลุฟ้า โดยมีการตั้งเต็นท์ สร้างห้องน้ำ สำหรับปักหลักชุมนุมค้างคืน เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยแกนนำ ผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมทั้งหมด รวมถึงเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิก ม.112 และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลาออก โดยยืนยันว่าจะชุมนุมอย่างสงบ ไม่ใช้ความรุนแรง
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการออกข้อตกลงขบวนทะลุฟ้า ดังนี้
– การเดินไปตั้งหมู่บ้านทะลุฟ้าวันนี้จะเดินด้วยแนวทางสงบ ไม่ปะทะ ไม่ยั่วยุ
– ขอแจ้งให้ทุกคนทุกกลุ่มที่มาร่วมขบวน ไม่พกพาอาวุธทุกชนิด ไม่ว่าจะพกติดตัว หรือพกไว้ในรถ
– ข้อตกลงในการปราศรัย เราจะปราศรัยในเชิงหลักการ ข้อมูลและข้อเท็จจริง โดยไม่ด่าทอหรือลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ เพราะเรากำลังต่อสู้กับโครงสร้างที่กดทับประชาชน
หมู่บ้านทะลุฟ้า
– สูบบุหรี่ในโซนที่จัดไว้
– งดดื่มแอลกอฮอล์ในหมู่บ้านทะลุฟ้า
– งดใช้เสียงหลัง 5 ทุ่ม
– ให้ความร่วมมือกับทีมงาน
ด้านพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)
บช.น. กล่าวถึงการชุมนุมของม็อบเดินทะลุฟ้าV.2 ในวันนี้ว่า เนื่องด้วยมีการประกาศจากกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี โพสต์เชิญชวนผ่านโซเชียลมีเดีย ให้มารวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 14.00 น. ก่อนเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอาชีวะไล่เผด็จการ ประกาศรวมตัวกันบริเวณที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และจะเคลื่อนมาที่ทำเนียบรัฐบาลเช่นกันนั้น
บช.น.ขอแจ้งเตือนประชาชนที่จะมาร่วมชุมนุมในวัน-เวลา ดังกล่าวว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ห้ามชุมนุมมั่วสุม อันเป็นความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโรค การชักชวนให้มาร่วมชุมนุมด้วยวิธีการหนึ่งวิธีการใด ทั้งผู้ชักชวน และผู้มาร่วมชุมนุม ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า บช.น. ได้แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน คือ
1.อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มอบหมาย พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 รับผิดชอบ
2.อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มอบหมาย พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเลขา ผกก.สน.พญาไท รับผิดชอบ
3.พื้นที่โดยรอบทำเนียบ ถนนราชดำเนิน และเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ มอบหมาย พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.น.1 และพล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.อคฝ. รับผิดชอบ
หากผู้ชุมนุมจะเข้า 3 จุด นี้ ตำรวจจะมีการตั้งจุดตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย หากพบบุคคลต้องสงสัย หรือมีพฤติกรรมน่าสงสัย ตำรวจต้องตรวจค้นตามกฎหมาย
สำหรับการรวมตัวทุกจุด รวมทั้งการเคลื่อนขบวน ตำรวจจะแจ้งเตือนทุกระยะ และควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ที่จะไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนคนอื่นๆ ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมยืนยันจะพักค้างแรมที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า หากดูพฤติกรรม และการข่าวของผู้ชุมนุมมีความเสี่ยงเกิดอันตรายลุกลาม ตำรวจมีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย แม้วันนี้ทางผู้จัดบอกว่างดใช้ความรุนแรง แต่เป็นที่ทราบว่าทุกครั้งที่ผ่านมาก็จะมีการแจ้งว่ามีบางกลุ่มไม่เข้าร่วมชุมนุม แต่ตามข้อเท็จจริงก็เข้าร่วมทุกครั้ง และมักก่อเหตุการณ์ความเดือดร้อนทุกครั้ง