เอกชนกาง 6 ข้อ จัดสรรวัคซีนโควิด-กำหนดกรอบเปิดประเทศ กระตุ้นท่องเที่ยว เสนอ ศบศ.พรุ่งนี้

เอกชนกาง 6 ข้อ จัดสรรวัคซีนโควิด-กำหนดกรอบ “เปิดประเทศ” รับนทท. เสนอ ศบศ.พรุ่งนี้


นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากผู้ประกอบการภาคธุรกิจการท่องเที่ยว 8 องค์กร ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (TCT) , สมาคมโรงแรมไทย (THA) , สมาคมสปาไทย , สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) , สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สาขาประเทศไทย (PATA) และ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) เสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนและแผนการเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว

ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ระบุว่า ในวันที่ 1 ต.ค.64 จะสามารถให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้วเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว แต่เพื่อให้สามารถเลื่อนเวลาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เร็วขึ้น จะใช้ในลักษณะ Sand Box ตามที่มีการหารือกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข, ศบค., กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งสมาคมโรงแรม และชาวภูเก็ต โดยเบื้องต้นจะใช้ภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง Sand box

โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เสนอขอวัคซีนไปยังกระทรวงสาธารณสุขจำนวน 925,000 โดส เพื่อไปฉีดให้กับประชาชนชาวภูเก็ตได้ 70% โดยจะได้รับวัคซีนในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค.64 ทั้งนี้ หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว จะต้องรอระยะเวลา 14 วัน เพื่อให้มีการสร้างภูมิคุ้มกัน และจะเข้ามาในเงื่อนไขว่า ในวันที่ 1 ก.ค.64 จะสามารถให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว เดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ตโดยไม่ต้องกักตัว โดยสัปดาห์แรกขอให้ท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และหากไม่มีอาการจึงจะสามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยได้

นอกจากนี้ กระทรวงฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีการหารือกับสมาคมโรงแรม และสายการบินต่างๆ เพิ่มเติมด้วยว่า ถ้าหากนโยบายนี้เป็นไปได้ ทุกหน่วยงานจะต้องมีการร่วมมือกัน ว่าจะทำอย่างไรให้มีการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว เช่น ค่าโดยสาร เพื่อให้สามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มากขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และก่อนจะถึงช่วงเดือน ต.ค. – พ.ย.64

รายงานข่าว แจ้งว่า จะมีการเสนอเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค.64) หลังจากนั้นจะเสนอเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 30 มี.ค.64

สำหรับข้อเสนอของ 8 องค์กร ได้แก่

1.ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 เป็นต้นไป ให้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบเรียบร้อยแล้วเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัว อย่างน้อยในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง เช่น ภูเก็ต และสมุย

2.เร่งรัดการจัดสรรและการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 70% ของประชากรในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง เช่น ภูเก็ตและสมุย ภายในวันที่ 15 เม.ย.-30 มิ.ย.64 เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในท้องถิ่นให้มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้วไม่ต้องกักตัวตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.64 เป็นต้นไป โดยจะเสนอเข้าที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในวันที่ 26 มี.ค.64 และนำเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 30 มี.ค.64

3.พิจารณาให้ภาคเอกชนร่วมกับรัฐบาลในการจัดหาและนำเข้าวัคซีนทางเลือกอื่นๆ เพิ่มเติมจากผู้ผลิตในต่างประเทศทั่วโลกอย่างเร่งด่วน เพื่อกระจายวัคซีนดังกล่าวสู่ประชาชนภายในประเทศไทยอย่างทั่วถึง

4.เร่งจัดสรรวัคซีนให้กับบุคลากรภาคท่องเที่ยวและบริการ เช่น พนักงานโรงแรมและพนักงานสายการบิน จำนวนเกือบ 1 ล้านคนทั่วประเทศภายในเดือน มิ.ย.64 เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้แก่ทั้งบุคลากรผู้ปฏิบัติงานและแก่ตัวนักท่องเที่ยวเอง

5.ประกาศกรอบเวลา และเงื่อนไขที่ชัดเจนในการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเริ่มต้นในวันที่ 1 ก.ค.64 เป็นต้นไป อย่างน้อยสำหรับพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง และเร่งดำเนินการเปิดประเทศสำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้สามารถเดินทางได้ทั่วประเทศในเวลาอันรวดเร็วให้ทันกับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจากประเทศที่เป็นตลาดสำคัญของไทยและฤดูกาลการท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทางการตลาด โดยเฉพาะโรงแรมและสายการบิน และการเตรียมดำเนินการเพื่อเจรจาข้อตกลง Travel Bubble ระหว่างประเทศ

6.พิจารณาอนุมัติใช้ IATA Travel Pass ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ที่ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทั้งนักเดินทาง สายการบิน และภาครัฐให้สามารถบริหารจัดการและตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารรับรองผลตรวจ หรือใบรับรองการรับวัคซีนโควิด 19 และเป็นการยกระดับมาตรการความปลอดภัยในการคัดสรรนักท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยสูงเข้าสู่ประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเป็นแอปพลิเคชั่นที่สายการบินทั่วโลกให้การยอมรับ

Back to top button