CPN พร้อมทุ่ม 1.1 หมื่นลบ. ลุยเทนเดอร์ฯ หุ้น SF ที่เหลือ 43.74% เริ่มพรุ่งนี้

CPN พร้อมทุ่ม 1.1 หมื่นลบ. ส่ง “เซ็นทรัลเวิลด์” ลุยเทนเดอร์ฯ หุ้น SF ที่เหลือ 932.55 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 43.74% ในราคาเสนอซื้อ 12 บ./หุ้น เริ่ม 10 ก.ย.- 18 ต.ค.64 เผยอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการถอน SF ออกจากตลาด


บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ระบุว่า วันนี้ (9 ก.ย.2564) บริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ จำกัด บริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทั้งทางตรงและอ้อมรวมร้อยละ 100 ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF (Mandatory Tender Offer) ได้ยื่นคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ตามที่บริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ จำกัด ได้ดำเนินการซื้อหุ้นสามัญของ SF จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม ประกอบด้วย บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR, กลุ่มนายอรณพ จันทรประภา, กลุ่มนายพงศ์กิจ สุทธพงศ์, กลุ่มนายนพพร วิฑูรชาติ และกลุ่มนานสมนึก พจน์เกษมสิน เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2564 ในราคา 12 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวน 1,111,781,388 หุ้น หรือคิดเป็นสัด่สวนร้อยละ 52.15 ของจํานวนหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมดและสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

นอกจากนี้ CPN ซึ่งเป็นบุคคลตามมาตรา 258 ของผู้ทําคําเสนอซื้อยังมีการถือหุ้นในกิจการ 87,589,200 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.11 ของจํานวนหุ้นที่จําหน่ายได้แล้ทั้งหมดและสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ซึ่งเมื่อรวมกับการได้มาซึ่งหุ้นของผู้ทำคำเสนอซื้อดังกล่าวข้อางต้น ทำให้ผู้ทำคําเสนอซื้อและบุคคลตามมาตรา 258 ของผู้ทําคําเสนอซื้อมีสัดส่วนในการหุ้นในกิจการรวมเป็นจํานวน 1,199,370,588 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 56.26 ของจํานวนหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมดและสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ดังนั้นผู้ทำคำเสนอซื้อจึงมีหน้าที่ต้องทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของกิจการ (Mandatory Tender Offer) จํานวน 932,550,343 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43.74 ของจํานวนหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมดและสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ และมีราคาเสนอซื้อหุ้นสามัญของกิจการหุ้นละ 12 บาท โดยมีระยะเวลาในการระยะเวลาทำคำเสนอซื้อ 25 วันทําการ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. 2564 ถึงวันที่ 18 ต.ค. 2564

สำหรับเงินทุนที่จะต้องใช้สําหรับการเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดของกิจการในกรณีที่ผู้ถือหุ้นทุกรายแสดงเจตนาขายหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดตามคำเสนอซื้อครั้งนี้ที่ราคาเสนอซื้อเท่ากับ 12 บาท/หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินเท่ากับ 11,190,604,116 บาท โดยแหล่งเงินทุนที่ใช้จะมาจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งจํานวน โดยธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน) หรือ KBANK ออกจดหมายรับรองว่าธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อแก่ผู้ทำคำเสนอซื้อเพื่อวัตถุประสงค์ในการทําคําเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่เหลือทั้งหมดของกิจการ ภายในวงเงิน 18,000,000,000 บาท

ทั้งนี้ภายหลังจากการทำคำเสนอซื้อบริษัทมีแผนที่จะเพิกถอน SF ออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของการดำเนินการดังกล่าวภายใต้กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง (แต่ไม่จำกัดเฉพาะ) การประเมินความเป็นไปได้ในการได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของกิจการสำหรับการดำเนินการดังกล่าวซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการเพิกถอนหุ้นของกิจการออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในกรณีที่ผู้ทำคำเสนอซื้อตัดสินใจจะดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ของกิจการผู้ทำคำเสนอซื้อจะดำเนินการทำคำเสนอซื้อเพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของกิจการและจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการเพิกถอนหลักทรัพย์ต่อไป

ทั้งนี้การเพิกถอนหลักทรัพย์ของกิจการจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนจะต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของกิจการและตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งภายหลังจากการเพิกถอนหลักทรัพย์เสร็จสิ้นสถานะของกิจการในการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสิ้นสุดลงแต่กิจการจะยังดำเนินการต่อไปและยังคงสถานภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด

Back to top button